เหมียวๆ มะนุด เราหิวแล้ว

ถ้าคุณต้องการให้เป็นอาหารสดทำเอง คุณควรเลือกให้มีสัดส่วนของโปรตีนสูง, ลดไขมันเสีย, คาร์โบไฮเดรต, น้ำตาล และโซเดียมลงให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวลดน้ำหนัก คือ เนื้อปลาทะเลสด, อกไก่, ไข่ และมันฝรั่ง เป็นต้น

หมอแมวเมียว

Master
หน้าแรก เกี่ยวกับแมว อาหารแมวกินแล้วอ้วน

เรื่องราวเกี่ยวกับ: อาหารแมวกินแล้วอ้วน

5 วิธีบอกรัก เเบบฉบับ ของเจ้าเหมียว

5 วิธีบอกรักตามแบบฉบับน้องแมว แม้หน้าจะมึนแต่ก็รักนะ!

แม้ว่าน้องแมวจะดูไม่ชอบการแสดงออกถึงความรักต่อเจ้าของมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแมวถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดสูงและรักเจ้าของเหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป เพียงแต่การแสดงออกอาจจะเป็นไปตามอารมณ์มากกว่า สำหรับเจ้าของน้องแมวแล้วไม่ต้องรู้สึกเสียใจไป เพราะน้องแมวจะมีวิธีบอกรักเฉพาะตัวที่จะทำให้คุณรู้ว่าเขารักคุณจริง ๆ ดัง 5 วิธีต่อไปนี้


1.เดินคลอเคลีย

ถ้าน้องแมวเดินมาคลอเคลียทุกครั้งที่เจอหน้ากัน โดยเป็นการนำส่วนลำตัวมาไถขาหรือตัวของคุณ จะยิ่งเป็นการบ่งบอกถึงความรักที่มีให้กับคุณเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ถ้าน้องแมวตัวไหนก้มศีรษะต่ำลง แล้วใช้ช่วงหัวไถที่แขนหรือขาของคุณจะยิ่งเป็นการบ่งบอกถึงการยอมรับต่อตัวคุณมากขึ้น

2.งับนิดให้ตกใจเล่น!

แมวบางตัวแสดงออกถึงความรักไม่เก่ง จึงใช้วิธีการงับนิด ๆ ให้เจ้าของรู้สึกตกใจ แต่การงับนี้จะไม่ก่อให้เกิดแผลหรืออันตรายใด ๆ แค่ทำให้เจ้าของรู้สึกตกใจเพียงเล็กน้อย หรือบางตัวอาจจะใช้ฟันหน้างับช่วงแขน, ขา หรือข้อศอกของคุณเบา ๆ เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่า

3.นอนทับทุกอย่างที่คุณสนใจ

อีกหนึ่งรูปแบบการบอกรักของน้องเหมียวที่ถือว่าแปลกพอสมควร คือ เมื่อใดที่คุณนั่งทำงานหรือนั่งเล่นแล้วน้องแมวจะขึ้นมานั่งทับสิ่งของทุกอย่างที่คุณสนใจอยู่ เช่น หนังสือ, คีย์บอร์ดหน้าคอมพิวเตอร์ และสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณกำลังสนใจอยู่  จะเป็นการแสดงให้รู้ว่าน้องแมวต้องการดึงความสนใจของคุณมาสู่ตัวเขา จึงเป็นการบอกรักประมาณว่า “สนใจฉันสิมนุษย์”

4.ทิ้งตัวต่อหน้าคุณเสมอ

ภาวะทิ้งตัวต่อหน้าเจ้าของ ไม่ใช่แค่เพียงการบอกถึงความผ่อนคลายของน้องแมวเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในรูปแบบของการบอกรักอย่างไว้ใจด้วยเช่นกัน เพราะถ้าน้องแมวไม่รู้สึกไว้ใจในสถานการณ์หรือผู้ที่อยู่รอบข้าง มักจะหลบซ่อนหรือนอนแบบเก็บเท้าเสมอ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกสบายใจ ไว้วางใจ และไม่เครียด จะทิ้งตัวต่อหน้าเจ้าของและนอนหงายเปิดพุงพร้อมกับเชิญชวนให้คุณได้ลูบขนของเขาอีกด้วย

5.เอาใจใส่คุณเป็นพิเศษ

เมื่อรักแล้วย่อมต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดังนั้นน้องแมวจึงจะไม่ปล่อยให้คุณดูแลเขาแค่ฝ่ายเดียว จึงบอกรักคุณด้วยกันเลียที่แขนหรือขาของคุณที่เปรียบเสมือนเป็นการเลียขนทำความสะอาดให้ นอกจากนี้ยังมีบริการนวดเพิ่มเติม เพื่อทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีบอกรักที่น่าประทับใจเลยทีเดียว

ถ้าคุณอยากรู้ว่าน้องแมวรักคุณหรือไม่? ลองสังเกตจากอาการเหล่านี้ ถ้ามีมากกว่า 1 อาการขึ้นไป แสดงให้รู้ว่าเขารักคุณมากและไว้วางใจ พร้อมเปิดใจที่จะรับคุณเป็นเจ้าของเต็ม 100% แล้วนั่นเอง


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

5 พฤติกรรมของเจ้าเหมียว ที่บ่งบอกความเป็นเจ้าของ

5 พฤติกรรมความกวนที่เหมียวทำ เพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของ

แมวถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมความกวนมาเป็นอันดับ 1 ทั้งยังชอบแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของด้วยอาการหรือพฤติกรรมที่ค่อนข้างแปลกไปกว่าสัตว์ประเภทอื่น ดังนั้นจึงจะขอพาคุณไปดูพฤติกรรมความกวนที่เหมียวชอบทำ เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของ ดังนี้


1.นอนทับมันซะเลย!

ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นใดก็ตาม ถ้าน้องแมวของคุณถูกใจและต้องการมัน! จะขึ้นไปนอนทับทันที ซึ่งจะต่างไปจากการบอกรักที่ชอบทับของต่าง ๆ ตรงหน้าเจ้าของ หรือเป็นสิ่งของที่คุณกำลังสนใจอยู่ เพราะถ้าแมวต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ เพื่อต้องการนำไปเล่นหรือครอบครองไว้ก็จะขึ้นไปนอนทับทุกอย่างที่ต้องการแบบไม่ยอมลงมา ต่อให้แมวตัวไหนมากวนก็จะไม่ยอมออกจากจุดที่ทับไว้ ซึ่งเป็นการแสดงให้รู้ว่าสิ่งของนี้ถูกจองไว้แล้วนั่นเอง

 

2.ไถขนทิ้งกลิ่น

อีกหนึ่งวิธีบ่งบอกความเป็นเจ้าของ คือ การไถขนไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อเป็นการทิ้งกลิ่น หรือถ้ามีสิ่งของใดที่ถูกใจเป็นพิเศษรวมไปถึงที่นอน จะทำการกลิ้งตัวไปทั่วและไถขนอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการบอกให้แมวตัวอื่นรู้ว่าสิ่งของหรือสถานที่นี้เป็นของตัวเองเท่านั้น ห้ามเข้ามายุ่งเด็ดขาด

3.ตามติดตลอดเวลา

การแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของในตัวผู้เลี้ยง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความกวนของน้องแมว นั่นคือการเดินตามติดตลอดเวลา แทบไม่ละสายตาไปจากคุณ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะคอยเดินตามอยู่เสมอ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็จะเคาะประตูเรียกหรือยื่นอุ้งเท้าน้อย ๆ ลอดช่องประตูเข้าไป เพื่อแสดงให้รู้ว่า “ฉันรออยู่นะ” นอกจากนี้ยังพยายามเข้าไปทุกห้องและเข้าไปอยู่ทุกส่วนในชีวิตของคุณ แม้แต่การนั่งทำงาน ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ แล้วใช้ช่วงแก้มหนุนแขนคุณไว้ก็ยังดี!

4.เล่นอยู่กับคุณคนเดียว

ถ้ารักและต้องการเป็นเจ้าของแล้ว แมวจะเล่นอยู่กับสิ่งนั้นจนแทบไม่ยอมไปไหน เช่นเดียวกับการบ่งบอกความเป็นเจ้าของผู้เลี้ยง ดังนั้นแมวจะเล่นกับคุณเพียงแค่คนเดียว โดยจะไม่เล่นกับแมวตัวอื่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งถ้ามีแมวตัวอื่นพยายามมาเล่นกับคุณก็จะรีบเข้ามาเล่นด้วยทันที! พร้อมทำท่าทีให้แมวอีกตัวรู้ว่า “ห้ามยุ่งกับเจ้าของฉันนะ เพราะฉันจองแล้ว”

5.ฉี่ใส่ซะเลย

อีกหนึ่งวิธีการแสดงความเป็นเจ้าของสถานที่หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่ถือว่ากวนแบบสุด ๆ คือ การฉี่ใส่ทุกอย่าง แม้จะทำหมันมาแล้วแต่ก็ยังคงมีพฤติกรรมฉี่ใส่ของ, ฉี่ใส่ผ้าม่าน, ฉี่ใส่ที่นอน และฉี่ใส่ของทั่วบ้าน หรือแม้แต่เสื้อผ้าคนเลี้ยง เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงอาณาเขตและการแสดงความเป็นเจ้าของที่พาให้ผู้เลี้ยงรู้สึกปวดหัวไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่เลี้ยงแมวแล้วพบพฤติกรรมเหล่านี้ภายในแมวของคุณ ให้รู้ไว้เลยว่าน้องเหมียวกำลังแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ ที่อาจจะทำให้คุณได้ทั้งรู้สึกขำและรู้สึกปวดหัวไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

6 เรื่องสำคัญของมือใหม่หัดเลี้ยงแมว เรียนรู้ก่อนมีเจ้านายตัวจริง

6 เรื่องสำคัญของมือใหม่หัดเลี้ยงแมว เรียนรู้ก่อนมีเจ้านายตัวจริง

คำเคลมที่ว่า “คุณไม่ได้เลี้ยงแมว แต่แมวต่างหากที่เลือกเจ้าของเอง” ไม่ใช่เป็นแค่การพูดลอย ๆ แบบไร้เหตุผล เพราะแม้แต่นักวิจัยเกี่ยวกับแมวก็ยังมีการแสดงผลว่าต่อให้คุณซื้อแมวพันธุ์มาเลี้ยง แต่ถ้าแมวไปเจอคนอื่นที่ถูกใจมากกว่าก็พร้อมจะย้ายบ้านไปอยู่กับคน ๆ นั้นทันที! ดังนั้นถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังจะเลี้ยงแมวและเลี้ยงได้อย่างราบรื่น สามารถมัดใจแมวได้ ลองมาดู 6 เรื่องสำคัญของมือใหม่หัดเลี้ยงแมวที่คุณควรรู้ ดังนี้

1.ความสะอาดมาที่ 1

แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณจะต้องเน้นเรื่องความสะอาดมาเป็นที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นที่นอน, ที่ให้อาหาร, น้ำดื่ม หรือกระบะทราย ทุกส่วนจะต้องสะอาดทั้งหมด ไม่เช่นนั้นอาจทำให้น้องแมวรู้สึกเครียดจนพฤติกรรมเปลี่ยนและหนีคุณไปในที่สุด

2.วัคซีนต้องครบ

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนรับน้องแมวมาเลี้ยง คือ เมื่อได้แมวมาแล้ว ควรทำการฉีดวัคซีนให้ครบตามช่วงเวลาที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยจะมีทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนที่คุณเลือกได้ สำหรับวัคซีนหลักที่คุณควรฉีดให้กับแมว คือ โรคหวัดแมว, ไวรัสไข้หัดแมว และไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่ถือว่าเป็นโรคน่ากลัวและแมวก็มักจะเป็นโรคเหล่านี้บ่อยครั้งมากที่สุด

3.ค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อคุณรับแมวมาเลี้ยงแล้ว ควรปล่อยให้แมวสำรวจห้องต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรดุหรือทำท่าทีทำร้ายแมวตั้งแต่วันแรก ๆ ที่รับมาเลี้ยงเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจทำให้แมวรู้สึกกลัวและไม่ไว้วางใจคุณอีกต่อไป

4.ไม่บังคับหรือฝืนใจ

ถ้าคุณเจอกับแมวในวันแรก ๆ ไม่ควรบังคับหรือฝืนใจให้ต้องถูกกอด, นอนด้วยกัน รวมไปถึงการใส่ปลอกคอ, เสื้อ และบังคับทำเรื่องต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้แมวรู้สึกเครียดมากยิ่งขึ้น เพราะการเปลี่ยนที่อยู่ใหม่และการได้เจ้าของใหม่เป็นประสบการณ์ที่แมวยังไม่เคยเจอมาก่อน จึงก่อให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลง่ายเลยทีเดียว

5.เลี้ยงระบบปิด แต่ต้องมีกิจกรรม

การเลี้ยงระบบปิดถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยป้องกันอันตรายในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ควรจะต้องมีกิจกรรมภายในบ้านที่ทำให้น้องแมวได้ออกกำลังกายและไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายในอนาคต

6.สร้างความสัมพันธ์ที่ดี

เมื่อคุณรับแมวมาเลี้ยงประมาณ 3-5 วันแล้ว ให้คุณค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแมวไปเรื่อย ๆ ด้วยการให้ขนม, การลูบหัว, การแปรงขน และร่วมเล่นไปกับน้องแมว เพื่อทำให้แมวของคุณรู้สึกไว้วางใจมากขึ้น

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาจะรับแมวมาเลี้ยงและเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการเลี้ยงแมวมาก่อน คุณควรรู้ทั้ง 6 เรื่องนี้ พร้อมไปด้วยการเตรียมของเกี่ยวกับแมวให้พร้อม ที่สำคัญคือคุณจะต้องรักและดูแล พร้อมให้อภัย ใจเย็นมากที่สุด เพื่อทำให้คุณและแมวสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

รีวิว โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5 นั้น ก่อตั้งมานาน เป็นที่น่าเชื่อถือ และยังเป็นโรงพยาบาลสัตว์แห่งแรกที่เปิดไห้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ เนื่องจากทางโรงพยาบาล มีนโยบายในการรักษาสัตว์เลี้ยง ด้วยความเข้าอกเข้าใจคนรักสัตว์เป็นหลัก จึงทำให้เกิดการบอกต่อ และเป็นที่รู้จักอย่างเเพร่หลาย ของคนทั่วไปนั่นเอง


สถาน ที่ตั้ง เเละช่องทางติดต่อ 

สนใจไปรับบริการที่ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5   สามารถไปที่ สถานที่ตั้ง ตามนี้ได้เลย เดินทางสะดวก เเละพื้นที่กว้างขวาง

31/7 ถนนนครอินทร์ ตำบลบางขุนกอง
อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

เบอร์โทร ติดต่อ : +662-079-9990
E-mail : info@thonglorpet.com


ทำไมถึงเลือกใช้บริการที่ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5

เนื่องจากปัจจุบัน มีโรงพยาบาลแมวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใหญ่หรือคลินิกรักษาแมว แต่สาเหตุที่เข้าไปใช้บริการจาก โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5  นั้น มีหลายปัจจัยอย่างเช่น

    1. เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เราจึงมั่นใจได้ว่า เมื่อแมวของเราป่วย เราสามารถที่จะส่งไปรักษาได้ทันที ไม่ต้องรอเวลา เพราะอาจจะเสียโอกาสและทำให้แมวของเราอาการหนักมากกว่าเดิม
    2. โรงพยาบาลสะอาด และได้มาตรฐาน ซึ่งเรามั่นใจได้เลยว่า การนำแมวของเรา เข้าไปรับการรักษาจะสะอาดและปลอดเชื้อแน่นอน
    3. ทีมสัตวแพทย์ของโรงพยาบาล มีความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งเราสามารถมั่นใจได้เลยว่าการรักษาแมวของเรานั้น จะได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
    4. โรงพยาบาลได้รับมาตรฐานสากล ตามระบบ ISO และยังมีรางวัลการันตีต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้เลยว่าโรงพยาบาลนั้น ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากลเเน่นอน
    5. การรักษาของโรงพยาบาลนั้น เน้นการรักษาด้วยการใส่ใจ เข้าใจหัวอกของคนรักแมว ซึ่งทำให้การเข้าไปรักษาแมวทุกครั้ง ได้รับความสบายใจ และประทับใจอย่างมาก

ศูนย์ รักษา – บริการ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา พระราม 5

หากต้องการหา โรงพยาบาลเพื่อรักษาแมว โปรดของท่าน หากท่านอยู่เเถว พระราม 5  สามารถเข้าไปรับบริการ ขอแนะนำ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขานี้ได้เลย จากประสบการณ์โดยตรง จากผู้เข้าไปรับบริการ มั่นใจได้เลยว่า ท่านจะประทับใจ ในบริการ และ มาตฐานของ โรงพยาบาล อย่างเช่นเรา อย่างแแน่นอน

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

วิธีดูแล แมวเป็นโรคตับ อย่างถูกวิธีและ อาหารที่เหมาะสม

แมวเป็นโรคตับ ควรกินอาหารอะไรดีที่สุด

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลาย ๆ คน แต่ในการเลี้ยงดูที่เจ้าของแมวหลายรายมองว่าทำได้ดีแล้ว ก็อาจยังซ่อนเร้นโรคภัยที่น่ากลัวภายในตัวแมวอยู่ หนึ่งในนั้นคือโรคตับที่เกิดได้จากทั้งอาหาร, สภาพแวดล้อมที่ถูกเลี้ยงดู และเกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบร่างกายแมวเอง ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้แมวสุดที่รักต้องเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ สามารถติดตามรายละเอียดของโรคและการดูแลได้ภายในบทความนี้

สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับแมวที่เป็นโรคตับ

ตับมีหน้าที่ในการย่อยอาหารและเปลี่ยนแปลงสารอาหาร ให้เข้าไปช่วยเสริมสุขภาพและร่างกายของแมว ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดกำจัดของเสียออกจากเลือด พร้อมการเป็นอวัยวะที่ช่วยในการสะสมวิตามินกับแร่ธาตุไว้ให้ร่างกายได้ใช้งานอย่างเหมาะสม ทั้งยังมีคุณประโยชน์ในเรื่องของการเสริมให้ภูมิคุ้มกันมีความแข็งแกร่งและทำให้เลือดแข็งตัวเร็วเมื่อเกิด บาดแผล ดังนั้นถ้าตับอักเสบหรือมีความผิดปกติ ย่อมส่งผลถึงความเสื่อมของอวัยวะอื่น ๆ ภายในร่างกายได้ง่ายกว่าปกติเป็นเท่าตัว ดังนั้นการเกิดโรคตับในแมวจึงส่งผลที่ค่อนข้างร้ายแรงพอสมควร ยิ่งถ้าสะสมมาเป็นเวลานาน ไม่ได้รับการรักษาและการดูแลอย่างถูกต้อง ย่อมทำให้อาการทรุดหนักลงและอาจจะเสี่ยงเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว โดยโรคตับในแมวจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่พบได้มากที่สุด คือ

1.การสะสมของไขมันภายในตับ (Hepatic Lipidosis)

ภาวการณ์สะสมไขมันภายในตับที่มีมาก จะเกิดขึ้นกับแมวที่ได้รับอาหารพลังงานสูงจนกลายเป็นภาวะเสี่ยงโรคอ้วน โดยเฉพาะแมวเลี้ยงที่ไม่ค่อยได้วิ่งล่าหรือออกกำลังกาย ซึ่งโรคตับภาวะนี้จะพบได้บ่อยมาก เนื่องมาจากเจ้าของแมวส่วนใหญ่มักจะให้อาหารแมวที่มีโปรตีนสูงและเป็นโปรตีนที่เผาผลาญได้ยาก แต่ทั้งนี้ก็สามารถเกิดกับแมวที่ได้รับอาหารตามปกติแต่โปรตีนกลับไม่เพียงพอได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังพ่วงมาด้วยโรคหัวใจ, เบาหวาน, ตับอ่อนอักเสบ และไตวายเฉียบพลันอีกด้วย

2.ความผิดปกติของการทำงานสมอง (Hepatic Encephalopathy)

ภาวะความผิดปกติทางสมอง เกิดจากมีของเสียจำนวนมากคั่งค้างอยู่ภายในตับ จึงส่งผลไปสู่ระบบสมอง ซึ่งสารพิษที่ไม่ได้ผ่านการกรจากตับจะไหลไปปะปนกับเลือด จึงทำให้เลือดที่ปนสารพิษไหลเวียนไปสู่ระบบประสาท สมองจึงถูกทำลายและแสดงอาการชักเกร็ง, ตาบอดอย่างรวดเร็ว หรือเดินเซและไม่สามารถทรงตัวได้ เป็นต้น

แมวเป็นโรคตับเกิดจากอะไร?

การเกิดโรคตับในแมวมีปัจจัยที่ส่งผลต่อความเสี่ยงหลากหลายปัจจัยด้วยกัน คือ

  • ความอ้วนที่เจ้าของแมวบางรายมองว่าดูน่ารัก แต่กลับส่งผลให้เป็นโรคตับได้ง่ายที่สุด เสี่ยงต่อการเป็น Hepatic Lipidosis หรือภาวะของการสะสมไขมันที่ตับมากเกินความจำเป็น
  • อายุยิ่งมาก ยิ่งแสดงอาการของโรคตับออกมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีอายุตั้งแต่ 7-10 ปีขึ้นไป จะพบเนื้องอกในตับได้มากกว่าแมวอายุน้อย
  • ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อจากรุ่นพ่อ-แม่มาสู่รุ่นลูกได้ง่ายที่สุด
  • สายพันธุ์ของแมวไทยจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับได้มากกว่าแมวในสายพันธุ์อื่น ๆ
  • การสัมผัสต่อสารเคมีบางชนิดเป็นระยะเวลานานเกินไป จะเกิดการสะสมและส่งผลต่อการทำลายตับ
  • การรับประทานยาเพื่อรักษาโรคหรือยาบำรุงบางประเภท อาจทำให้เกิดการสะสมและทำลายจนตับเสียหายได้เช่นกัน

อาการของโรคตับในแมว

สำหรับเจ้าของแมวที่รู้สึกกังวลใจว่าแมวของคุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับหรือไม่? คุณสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้

  • มีอาการเบื่ออาหาร แม้แต่อาหารที่เคยชอบกินก็ไม่สามารถกินได้อย่างอร่อยอีกต่อไป
  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
  • กินน้ำมากขึ้นและบ่อยครั้งกว่าเดิม
  • มีอาการอาเจียนร่วมหลังการกินอาหาร
  • ท้องเสียบ่อยครั้ง
  • มีอาการน้ำลายไหลยืดแบบไร้สาเหตุ
  • มีอาการซึม ไม่เล่น ไม่ร่าเริง หลบไปนอนในมุมสงบเพียงตัวเดียว

อาการของโรคตับจะมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นและมักจะไม่ค่อยแสดงอาการที่เจาะจงมากนัก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจค่าตับจากผลเลือดที่จะทำให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำ พร้อมการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงที

แมวเป็นโรคตับ ควรดูแลอย่างไร

เมื่อคุณพาน้องแมวไปตรวจกับสัตวแพทย์และพบว่าเป็นโรคตับจริง คุณควรให้การรักษาอย่างต่อเนื่องและดูแลน้องแมวที่เป็นโรคตับตามวิธีนี้

  • ป้อนยาให้ตรงตามเวลาที่สัตวแพทย์สั่ง
  • ถ้าเป็นโรคตับขั้นรุนแรงจนต้องได้รับการผ่าตัด ควรดูแลแผลผ่าตัดของน้องแมวให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อและอักเสบ
  • ให้อาหารที่เหมาะสมต่อแมวเป็นโรคตับหรือเป็นอาหารสูตรเฉพาะของแมวที่เป็นโรคนี้ โดยจะมีทั้งแบบ อาหารเม็ดและอาหารเปียกให้เลือก
  • เลี้ยงแมวระบบปิด เพื่อป้องกันการออกไปรับสารพิษหรือเชื้อต่าง ๆ นอกบ้าน
  • แยกพื้นที่ให้แมวป่วยอยู่ในบริเวณที่มีความสะอาดและอากาศถ่ายเทสะดวก
  • การทำความสะอาดบ้านควรปราศจากสารเคมีที่อาจเป็นพิษต่อตับแมวได้
  • จัดพื้นที่นอนและพื้นที่ส่วนตัวให้แมว เพื่อลดความตึงเครียด
  • พาไปพบสัตวแพทย์ตามนัดทุกครั้งอย่างเคร่งครัด

อาหารที่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคตับ เป็นอาหารแบบไหน ให้อาหารอะไรได้บ้าง

อาหารคือส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยเสริมสุขภาพให้แมวที่เป็นโรคตับกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้น ดังนั้นลองดูว่ามีอาหารแบบใดบ้างที่เหมาะสมต่อแมวที่เป็นโรคนี้

1.อาหารเปียกสูตรเฉพาะ

อาหารเปียกจะเหมาะสำหรับแมวเป็นโรคตับที่มีอาการปากอักเสบหรือเจ็บปากร่วมด้วย รวมไปถึงแมวที่มีภาวะเริ่มเบื่ออาหารอย่างรุนแรง จะเป็นสูตรเฉพาะที่ลดปริมาณโปรตีนหนักลงและเพิ่มกรดอะมิโนจำเป็นให้กับร่างกาย ทั้งยังส่งผลให้ไขมันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานภายในร่างกายได้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นตัวช่วยลดการทำงานของตับ ทั้งยังมีแอลคาร์นิทีนที่จะเพิ่มเซลล์บำรุงตับให้มากขึ้น  มีการควบคุมปริมาณของสารอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกายแมวที่เป็นโรคตับและเพิ่มวิตามินกับแร่ธาตุ ทั้งยังควบคุมปริมาณของทองแดงและเหล็ก พร้อมการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแอมโมเนียที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตับและสมองของแมวได้

2.อาหารเม็ดสูตรเฉพาะ

อาหารแมวสูตรเฉพาะสำหรับแมวเป็นโรคตับแบบเม็ด จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับแบบอาหารเปียกทั้งหมด เพียงแต่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับแมวที่ชอบการกินอาหารเม็ดมากกว่า เม็ดอาหารจะเคี้ยวง่าย ไม่แข็ง จึงไม่จำเป็นต้องนำไปแช่น้ำแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นสูตรแบบย่อยง่าย มีโปรตีนจำเป็นแบบอนุภาคเล็ก เพิ่มกรดอะมิโนจำเป็นกับวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย มีตัวช่วยลดเซลล์ทำลายตับ มีการควบคุมสารอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อทำให้การกินอาหารของแมวสร้างประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างสูงสุด

3.อาหารที่ผ่านมาตรฐาน AAFCO

ถ้าอาการโรคตับในแมวของคุณดีขึ้นแล้ว ต้องการปรับเปลี่ยนมาสู่อาหารสูตรปกติ คุณควรเน้นให้อาหารที่ผ่านมาตรฐานสากล AAFCO จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะอาหารเหล่านี้จะมีการควบคุมปริมาณของคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, วิตามิน, ไฟเบอร์, ไขมัน และแร่ธาตุไว้ให้สมดุลต่อสุขภาพของแมวที่เป็นโรคต่าง ๆ จึงถือว่าเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีความปลอดภัยสูงและผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดี พร้อมให้สารอาหารที่มีความครบถ้วน

4.อาหารโปรตีน

โรคตับเกิดขึ้นจากการมีสารแอมโมเนียที่ถูกเปลี่ยนเป็นยูเรียในเลือดสูง ดังนั้นจึงควรเน้นให้โปรตีนกับไขมันแบบย่อยง่ายต่อแมวที่เป็นโรคตับ เช่น การให้โปรตีนจากนมและไขของวัวที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ลดการเกิดปริมาณของแอมโมเนียภายในระบบเลือดให้น้อยลง พร้อมการหลีกเลี่ยงโปรตีนที่ก่อให้เกิดแอมโมเนียสูงอย่างกุ้ง, เครื่องในสัตว์ทุกประเภท และโฮลวีต เพราะนอกจากจะให้โปรตีนหนักแล้ว ยังมากับทองแดงในปริมาณที่สูงมากเลยทีเดียว

5.อาหารต้านอนุมูลอิสระ

อาหารต้านสารอนุมูลอิสระของสัตว์เลี้ยง คือ อาหารที่ผสมผสานวัตถุดิบที่เป็นตัวช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ พร้อมให้การบำรุงและฟื้นฟูตับได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาหารประเภทนี้จะช่วยเสริมสุขภาพทั้งโรคตับและโรคอื่น ๆ ให้การฟื้นฟูสมองกับระบบภายในของสัตว์เลี้ยง ระบบต่าง ๆ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  อาหารที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะอุดมอยู่ในสารสกัดจากสมุนไพรที่สัตว์เลี้ยงสามารถกินได้ กรดอะมิโนรวม และวิตามินรวม เป็นต้น

สิ่งที่ควรป้องกัน เพื่อไม่ให้แมวเป็นโรคตับ

ถ้าคุณไม่อยากให้น้องแมวแสนรักต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ คุณควรป้องกันและดูแลอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้สุขภาพของน้องแมวแข็งแรงและไม่ต้องทุกข์ทรมานไปกับโรคตับด้วยการดูแล ดังนี้

  • ให้อาหารคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • อาหารที่ดีควรมีปริมาณของโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เหมาะสมต่อร่างกายของแมว ไม่มีสารใดที่สูงมากเกินไป
  • หาของเล่นหรือกิจกรรมให้น้องแมวได้ออกกำลังกายอยู่เสมอ
  • เลี้ยงระบบปิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากภายนอก
  • ทำความสะอาดที่อยู่ของแมวเป็นประจำ และควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสารจากธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสารเคมีสะสม
  • พาน้องแมวของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจค่าตับอยู่เสมอ คอยสังเกตอาการแมวที่คุณเลี้ยงเป็นประจำ ถ้ามีอาการผิดแปลกไปจากเดิมเกินกว่า 3 วัน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที

สำหรับผู้ที่เลี้ยงน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักภายในบ้าน เรื่องสำคัญที่คุณควรทำ คือ การพาน้องแมวของคุณไปรับการตรวจสุขภาพเป็นประจำและรับวัคซีนที่จำเป็นต่อแมวให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ พร้อมไปด้วยการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ เลือกอาหารที่ดีและเหมาะสมต่อแมวแต่ละช่วงวัย เสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะทำให้แมวสามารถออกกำลังกายได้อย่างสนุกสนาน เพื่อช่วยลดความตึงเครียด เพียงเท่านี้น้องแมวของคุณจะอยู่อย่างมีความสุขและไม่ต้องเสี่ยงทุกข์ทรมานไปกับโรคตับและโรคร้ายต่าง ๆ อีกต่อไป


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

เผย 4 สาเหตุ ทำไม ไม่อยากกวนเจ้าเหมียว เวลาเค้าหลับ

4 สาเหตุที่ทำให้เราต้องรู้สึกเกรงใจแมวหลับ

เชื่อว่าใครก็ตามที่เป็นทาสแมว ต้องเคยเจอประสบการณ์น้องเหมียวมานอนอยู่บนตักหรือนอนทับแขนของคุณอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือการนอนนี้ทำให้คุณรู้สึกเกรงใจจนแทบไม่กล้าขยับตัวอีกด้วย บางคนก็แทบจะกลั้นหายใจเพื่อเปลี่ยนท่ากันเลยทีเดียว จนทำให้เกิดเป็นคำถามของเหล่าผู้เลี้ยงแมวหลายคนว่าทำไมเราถึงต้องรู้สึกเกรงใจเวลาแมวนอนหลับ วันนี้จึงขอนำ 4 เหตุผลขงคนเกรงใจแมวมาตอบคำถามนี้ คือ


1.ความน่ารักเกินต้าน

เวลาแมวหลับมักจะมีท่าทางและหน้าตาที่ค่อนข้างน่ารักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหมียวน้อยที่เวลานอนแล้วชอบทำหน้า จิ้มลิ้ม ส่วนแมวบางตัวก็อาจจะนอนด้วยท่าทางสุดน่ารักหรือนอนหงายโชว์พุง พร้อมไปด้วยท่าทางที่ดูตลก จึงทำให้คนคลั่งรักแมวอย่างเรา ๆ อยากจะนั่งมองความน่ารักเกินต้านนี้ไปเรื่อย ๆ จนทำให้รู้สึกเกรงใจน้องแมวที่นอนอยู่อย่างมากเลยทีเดียว

2.หลับดีกว่าตื่นมากวนนะ!

อีกหนึ่งสาเหตุที่มนุษย์อย่างเราเกรงใจน้องแมวที่หลับอยู่ใกล้ ๆ คือ ความกลัวน้องแมวตื่นมาแล้วจะลุกขึ้นมาก่อกวน  โดยเฉพาะแมวเด็ก ถ้าได้หลับแล้วเชื่อว่าเจ้าของจะรู้สึกไม่อยากให้ตื่นเร็วแน่น เพราะเมื่อใดที่ตื่นแล้วจะลุกขึ้นมาวิ่งเล่นซน กัดแทะ และชวนเจ้าของเล่นด้วยแน่นอน! โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานอยู่บ้าน ถ้าแมวหลับแล้วจะรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

3.สัมผัสได้ว่าเขาปลอดภัย

มีงานวิจัยออกมาอย่างชัดเจนว่าการที่แมวมานอนข้างเจ้าของหรือมานอนบนตัก รวมไปถึงการนอนหนุนแขนเจ้าของ เป็นเพราะแมวรู้สึกถึงความปลอดภัย ไร้กังวล ความรู้สึกไว้วางใจ ดังนั้นเมื่อแมวหลับอยู่ใกล้ ๆ คุณ จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของจะรู้สึกเกรงใจแมวตัวเองเป็นพิเศษ เพราะต้องการให้น้องนอนหลับได้อย่างสบายใจและเต็มอิ่มที่สุดนั่นเอง

4.กลัวน้องเหมียวไม่รัก

สำหรับคนที่เป็นทาสแมวและเป็นคนคลั่งรักรักแมวอย่างมาก เมื่อน้องแมวมานอนใกล้ ๆ ย่อมรู้สึกมีความสุข ดังนั้นการจะขยับตัวไปทำอะไรสักอย่างในขณะที่น้องแมวกำลังหลับอยู่เหมือน เจ้าของแมวจะรู้สึกกลัวว่าแมวอาจจะรู้สึกไม่ดี นอนไม่สบาย และน้องเหมียวอาจจะไม่รักได้! จึงทำให้รู้สึกเกรงใจ ซึ่งบางคนสามารถนั่งท่าเดิมเพื่อให้แมวนอนหลับได้นานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

ความน่ารักของแมวสามารถละลายใจคนเลี้ยงได้ แม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมค่อนข้างนิ่ง แต่เมื่อได้แสดงออกถึงความน่ารักแล้วก็ทำให้ใครเลยคนใจอ่อนได้ดีเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เวลาน้องหลับแล้ว จะทำให้เจ้าของแมวหลายคนรู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

วิธีดูแมว ป่วยเป็นโรคไต พร้อมแนะนำอาหารที่เหมาะกับน้อง

แมวเป็นโรคไต ควรให้กินอาหารแบบไหน ดูแลอย่างไรให้น้องแมวอายุยืน

โรคไตถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะน้องแมวที่มีแนวโน้มในการดื่มน้ำน้อยและกินอาหารที่มีโซเดียมกับไขมันสูงมากจนเกินไป จะยิ่งบ่งบอกถึงภาวะเสี่ยงโรคไตได้มากยิ่งขึ้น ถ้ารักษาทันก็อาจจะยังกลับมาใช้ชีวิตอย่างสดใสได้ตามปกติ แต่ถ้าระดับอาการสูงขึ้นก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง ดังนั้นการดูแลอย่างใกล้ชิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งถ้าคุณไม่อยากให้น้องแมวตัวโปรดต้องจากไปก่อนเวลา ควรศึกษาแนวทางของโรค การรักษา และการดูแล เพื่อยืดอายุให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้มากขึ้น

สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับแมวที่เป็นโรคไต

ไตเป็นอวัยวะภายใน ทำหน้าที่ในการขับของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ แล้วทำการส่งต่อไปยังระบบการขับถ่ายตามปกติของร่างกาย ซึ่งการขับของเสียต่าง ๆ จะยังคงรักษาสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงของอวัยวะไว้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าไตเกิดเสียหายการทำหน้าที่เพื่อขจัดของเสียและสารพิษย่อมมีปัญหาตามไปด้วย เมื่อไตเริ่มเสื่อมสภาพลง การแสดงผลความผิดปกติของร่างกายย่อมเกิดให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะเกิดการสะสมของเสียที่ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสียหายไปด้วย

ดังนั้นแมวที่เป็นโรคไตจะแสดงอาการต่อเมื่อเนื้อไตสูญเสียไปแล้วกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการของโรคแทรกซ้อนและการเสียชีวิตจากไตวายเฉียบพลัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของจำเป็นจะต้องจับตาดูความเปลี่ยนแปลงสัตว์เลี้ยงของคุณอยู่เสมอ เพราะถ้าตรวจสุขภาพแล้วพบว่าเป็นโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้น  การรักษาจะเป็นไปอย่างทันท่วงทีและทำให้แมวของคุณกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

แมวเป็นโรคไตเกิดจากอะไร?

โรคไตเป็นโรคที่ร้ายแรงในแมวมากพอสมควร เพราะพบว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว จะพบได้มากสำหรับแมวที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือแมวบางตัวอาจพบตั้งแต่อายุเพียงแค่ไม่กี่ปี โดยเฉพาะแมวที่ไม่ชอบกินน้ำและถูกเลี้ยงมาให้มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ปกติ เรียกว่ายิ่งอ้วนมากเท่าไหร่ความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะโรคไตก็ยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเท่านั้น ทั้งยังมีอีกปัจจัยสำคัญคืออายุของแมวที่มากขึ้น นอกจากนี้สายพันธุ์แมวเปอร์เซียและ Angora ยังมีสภาวะเสี่ยงต่อโรคไตที่สูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ อีกด้วย โดยโรคไตในแมวจะถูกแบ่งออกเป็น 2 สภาวะด้วยกัน คือ

1.ไตวายเฉียบพลัน

ไตวายเฉียบพลันถือว่าเป็นอาการของภาวะไตวายที่น่ากลัวที่สุด เมื่อเกิดอาการแล้วจะเพิ่มระดับความรุนแรงให้กับโรคไตมากขึ้นเป็นเท่าตัว โดยจะเกิดจากการทำงานของไตที่มีความล้มเหลวแบบเฉียบพลัน จึงทำให้ไตหยุดทำงานและแมวจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ส่วนมากแล้วจะเกิดจากการได้รับสารพิษสะสมเป็นจำนวนมาก หรือการใช้ยาบางประเภทเกินขนาด นอกจากนี้ยังเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางสายพันธุ์ที่มีความรุนแรง จึงทำให้การทำงานของกรวยไตหยุดทำงานแบบเฉียบพลัน ทั้งยังอาจเกิดจากภาวะเสียเลือดมากจนเกิดอาการช็อค, อาการเครียดจากการผ่าตัด, ได้รับความกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ และขาดน้ำเป็นเวลานานได้อีกด้วย

2.ไตวายเรื้อรัง

ถ้าแมวเป็นภาวะไตวายเรื้อรังจะแสดงอาการออกมาน้อย ผู้ที่เป็นเจ้าของจึงอาจไม่รู้ว่าแมวกำลังป่วยด้วยโรคไต โดยอาการเรื้อรังนั้นจะอยู่ภายในตัวแมวเป็นระยะเวลานานหลายเดือนหรืออาจจะหลายปี สาเหตุของการเกิดภาวะไตวายเรื้อรังเกิดได้จากทั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย, การเกิดเนื้องอกภายในร่างกาย, ไตล้มเหลว, ค่าไตพุ่งขึ้นสูง, การทำงานของไต เกิดความเสียหาย และสภาพเนื้อไตภายในเสียหายไปถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังอาจจะเกิดจากอายุของแมวที่มากขึ้นอีกด้วย  ซึ่งกว่าจะแสดงอาการออกมาให้เจ้าของได้เห็น เนื้อไตก็อาจถูกทำลายไปแล้วเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการรักษาจึงอาจจะทำได้เพียงแค่การประคองอาการและให้ยาอยู่เรื่อย ๆ เพื่อไม่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนและลดความเสี่ยงต่ออาการที่ทรุดหนักลง

อาการของโรคไตในแมว

อาการเบื้องต้นที่จะบ่งชี้ให้คุณได้สังเกตแมวของคุณเองว่าเป็นโรคไตหรือไม่ คือ

  • การกินน้ำมากผิดปกติ จนทำให้ปัสสาวะตลอดทั้งวัน
  • ปัสสาวะออกมาเป็นจำนวนมากต่อครั้งและอาจมีเลือดปน
  • มีอาการเบื่ออาหารติดต่อกันนานหลายวัน
  • กลิ่นปากและลมหายใจเหม็นแรงกว่าปกติ
  • มีแผลในช่องปากบ่อย จนทำให้กินอาหารไม่ได้
  • น้ำหนักลดลงเร็วและซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด
  • กินอาหารแล้วไม่อ้วนขึ้น
  • มีอาการอาเจียนบ่อยผิดปกติ
  • มีอาการท้องเสียรุนแรงและถ่ายเหลวตลอดทั้งวัน

แมวเป็นโรคไต ควรดูแลอย่างไร

เมื่อคุณได้พาน้องแมวไปตรวจและพบว่าเป็นโรคไต แนวทางในการดูแล คือ การเฝ้าระวังพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและทำตามวิธีดังต่อไปนี้

  • พาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการรับน้ำเกลือใต้ผิวหนังและการเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
  • ถ้าต้องมีการกินยา เจ้าของควรป้อนยาให้ตรงตามเวลาที่สัตวแพทย์สั่ง
  • ดูแลทำความสะอาดทั้งภาชนะใส่น้ำและอาหารอยู่เสมอ
  • การให้อาหารในแต่ละครั้งควรให้ในปริมาณที่น้อย เพื่อทำให้ระบบย่อยทำงานง่ายขึ้นและไตไม่ทำงานหนักจนเกินไป
  • งดการให้ขนมแมวเลียและขนมขบเคี้ยวทุกชนิด
  • ถ้าต้องการให้แมวเบื่ออาหารรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น ให้คุณเลือกเป็นอาหารเปียกสูตรแมวโรคไตแล้วนำไปอุ่น เพื่อให้กลิ่นหอมชวนน่ากินมากขึ้น
  • ถ้าแมวไม่ยอมกินน้ำด้วยตัวเอง ให้คุณใช้ไซริงค์เพื่อป้อนน้ำให้แมวเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน
  • การป้อนน้ำให้แมวในแต่ละวันควรวัดตามน้ำหนักตัว ซึ่งแมวที่มีน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม จะต้องได้รับน้ำประมาณ 40-50 มิลลิลิตรต่อวัน
  • เลือกให้อาหารสำหรับแมวเป็นโรคไตโดยเฉพาะ
  • จัดพื้นที่นอนที่มีความเงียบสงบ แยกออกจากแมวตัวอื่น เพื่อลดความตึงเครียด
  • เพิ่มของเล่นหรือพื้นที่ออกกำลังกาย พร้อมกระตุ้นให้แมวรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ
  • พบสัตวแพทย์ให้ตรงตามนัดทุกครั้ง
  • จดบันทึกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับแมว เพื่อนำไปบอกต่อสัตวแพทย์เมื่อถึงกำหนดเวลานัด

อาหารที่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคไต เป็นอาหารแบบไหน ให้อาหารอะไรได้บ้าง

หนึ่งในเรื่องสำคัญของการดูแลแมวเป็นโรคไตที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม คือ เรื่องการให้อาหารที่จะช่วยให้ปัญหาโรคไตลดต่ำลง พร้อมช่วยฟื้นฟูให้ไตของน้องแมวกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง ซึ่งอาหารที่เหมาะต่อแมวเป็นโรคไต คือ

1.อาหารแมวเป็นโรคไต

อาหารสำหรับแมวป่วยเป็นโรคไตที่มาในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูป มีทั้งอาหารเปียกและอาหารเม็ดที่ถูกทำมาอย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและฟื้นฟูการทำงานของระบบไต รักษาสมดุลของภาวะอิเล็กโทรไลต์ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้เป็นอย่างดี สำหรับอาหารเปียกควรเลือกสูตรที่มีเนื้อข้นและเหลว เพื่อทำให้แมวที่เบื่ออาหารกลืนง่ายขึ้นและช่วยลดการทำงานของไตลง ถ้าแมวกินอาหารเองไม่ได้ก็สามารถใช้ไซริงค์ดูดอาหารเพื่อป้อนได้ง่ายมากขึ้น สำหรับอาหารเม็ดจะมีสูตรคล้ายคลึงกับอาหารเปียก แต่จะเหมาะสำหรับแมวที่ชอบการกินอาหารเม็ดมากกว่า โดยที่เม็ดจะไม่แข็งมากเกินไปและย่อยสลายได้ง่าย ที่สำคัญคืออาหารเหล่านี้จะถูกควบคุมรสชาติและปริมาณของโซเดียม ปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อไตของแมว คุณจึงสามารถซื้อให้แมวกินได้อย่างสบายใจ

2.อาหารทำเอง

ถ้าคุณมีเวลามากพอและต้องการเตรียมอาหารให้กับน้องแมวด้วยตัวเอง ต้องเน้นหลักโภชนาการที่เหมาะสมต่อแมวเป็นโรคไต โดยจะต้องมีสารอาหารครบถ้วนทั้งแร่ธาตุ วิตามิน และพลังงาน เน้นเป็นโปรตีน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, ไฟเบอร์ไขมันดี และโอเมก้า 3 พร้อมการจำกัดให้อาหารแต่ละมื้อมีสารอาหารต่าง ๆ ที่พอเหมาะ เพื่อไม่ทำให้เกิดการคั่งค้างของเสียภายในไตมากเกินไป อาหารที่เหมาะสมต่อแมวเป็นโรคไต คือ ข้าวสวย, ไข่ขาวต้ม, ขนมปังขาว, ตับไก่สุก, เนื้อไก่ส่วนอกต้มสุก, เกลือไอโอดีน และน้ำมันพืช เป็นต้น

สิ่งที่ควรป้องกัน เพื่อไม่ให้แมวเป็นโรคไต

ถ้าคุณไม่อยากให้น้องแมวที่บ้านต้องเสี่ยงต่อภาวะโรคไต ที่อาจจะทำให้รู้สึกทุกข์ทรมานและเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว คุณควรป้องกันไว้ก่อนด้วยวิธีดูแลดังนี้

1.จำกัดอาหาร

การจำกัดเรื่องอาหารถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการป้องกันแมวเป็นโรคไต คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเค็มหรือโซเดียมสูงและลดอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป ควรเลือกเป็นอาหารสาย Organic เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต ที่สำคัญคือการให้อาหารแมวในแต่ละครั้ง ควรให้ในปริมาณที่น้อยแต่อาจจะบ่อยครั้ง เพื่อช่วยลดการทำงานของไต

2.พาแมวออกกำลังกาย

สำหรับแมวที่มีอายุมากแล้ว คุณควรสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้แมวได้รู้สึกตื่นเต้นและอยากออกกำลังกายให้มากขึ้น เช่น การซื้อของเล่นหรือเครื่องออกกำลังกายสำหรับแมวโดยเฉพาะ เพื่อทำให้แมวได้รู้ถึงสัญชาตญาณของตัวเองและมีจินตนาการในการออกล่า ได้ใช้พลังงานตามปกติ จึงทำให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงาน พร้อมกระตุ้นให้อวัยวะภายในสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3.กระตุ้นให้กินน้ำมากขึ้น

น้ำเปล่าสะอาดมีความสำคัญต่อแมวเป็นอย่างมาก ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าแมวของตัวเองกินน้ำน้อยมากต่อวัน ควรกระตุ้นให้กินน้ำบ่อยครั้ง ด้วยการทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำหรือการใช้ไซริงค์ป้อนน้ำสะอาดไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน เพื่อเป็นการจูงใจให้แมวเคยชินต่อการกินน้ำมากขึ้น

4.เลี้ยงระบบปิด

การเลี้ยงระบบปิดจะช่วยลดโอกาสของการ ติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆ ที่แมวอาจจะได้รับมาจากสภาพแวดล้อมภายนอก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารพิษที่เป็นอันตรายต่อแมว ที่สำคัญคือแม้จะเลี้ยงระบบปิด คุณควรทำความสะอาดพื้นที่ของแมวและส่วนต่าง ๆ ของบ้านด้วยน้ำยาจากสารสกัดสมุนไพร เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างที่แมวอาจได้รับจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจนกลายเป็นโรคไตได้ง่ายอีกด้วย

ถ้าคุณต้องการให้น้องแมวมีอายุยืนยาวและอยู่เป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของคุณได้นานมากขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงต่อภาวะไตวายเฉียบพลันหรือไตวายเรื้อรังให้คุณรู้สึกกังวลใจ คุณควรดูแลน้องแมวและให้อาหารย่างถูกต้องตามที่ได้แนะนำไว้ เพียงเท่านี้น้องแมวของคุณจะมีสุขภาพที่ดี สดใสร่าเริง และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไปพร้อมกับคุณในทุก ๆ วัน

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

รีวิว โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เพ็ทเวลเนส เซนเตอร์ (สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เพ็ทเวลเนส เซนเตอร์ (สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์)

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่ขนาดใหญ่ ก่อตั้งมานาน เป็นที่น่าเชื่อถือ และยังเป็นโรงพยาบาลสัตว์แห่งแรกที่เปิดไห้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ เนื่องจากทางโรงพยาบาลมีนโยบายในการรักษาสัตว์เลี้ยงด้วยความเข้าอกเข้าใจคนรักสัตว์เป็นหลัก จึงทำให้เกิดการบอกต่อ และเป็นที่รู้จักอย่างเเพร่หลาย ของคนทั่วไปนั่นเอง


สถาน ที่ตั้ง เเละช่องทางติดต่อ 

สนใจไปรับบริการ สามารถไปที่ สถานที่ตั้ง ตามนี้ได้เลย เดินทางสะดวก เเละพื้นที่กว้างขวาง

เพ็ทเวลเนส เซนเตอร์ (Pet Wellness Center)
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์ ห้องเลขที่ 177-178
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

เบอร์โทร ติดต่อ : +662-029-7699
E-mail : info@thonglorpet.com


ทำไมถึงเลือกใช้บริการที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

เนื่องจากปัจจุบัน มีโรงพยาบาลสัตว์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใหญ่หรือคลินิกรักษาสัตว์ แตสาเหตุที่เข้าไปใช้บริการจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ นั้น มีหลายปัจจัยอย่างเช่น

    1. เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เราจึงมั่นใจได้ว่า เมื่อสัตว์ของเราป่วย เราสามารถที่จะส่งไปรักษาได้ทันที ไม่ต้องรอเวลา เพราะอาจจะเสียโอกาสและทำให้สัตว์เลี้ยงของเราอาการหนักมากกว่าเดิม
    2. โรงพยาบาลสะอาด และได้มาตรฐาน ซึ่งเรามั่นใจได้เลยว่า การนำสัตว์เลี้ยงของเรา เข้าไปรับการรักษาจะสะอาดและปลอดเชื้อแน่นอน
    3. ทีมสัตวแพทย์ของโรงพยาบาล มีความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งเราสามารถมั่นใจได้เลยว่าการรักษาสัตว์เลี้ยงของเรานั้น จะได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
    4. โรงพยาบาลได้รับมาตรฐานสากล ตามระบบ ISO และยังมีรางวัลการันตีต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้เลยว่าโรงพยาบาลนั้น ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากลเเน่นอน
    5. การรักษาของโรงพยาบาลนั้น เน้นการรักษาด้วยการใส่ใจ เข้าใจหัวอกของคนรักสัตว์ ซึ่งทำให้การเข้าไปรักษาสัตว์เลี้ยงทุกครั้ง ได้รับความสบายใจ และประทับใจอย่างมาก

ศูนย์บริการ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เพ็ทเวลเนส เซนเตอร์ (สาขา เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์)

หากต้องการหา โรงพยาบาลเพื่อรักษาแมว โปรดของท่าน หากท่านอยู่เเถว เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ สามารถเข้าไปรับบริการ ขอแนะนำ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขานี้ได้เลย จากประสบการณ์โดยตรง จากผู้เข้าไปรับบริการ มั่นใจได้เลยว่า ท่านจะประทับใจ ในบริการ และ มาตฐานของ โรงพยาบาล อย่างเช่นเรา อย่างแแน่นอน

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

มาเรียนรู้วิธี ดูแลแมวท้องเสีย อย่างถูกวิธีกันดีกว่า

 

แมวท้องเสีย เกิดจากอะไร ควรดูแลและให้อาหารแบบไหนดี?

เมื่อแมวมีอาการเข้ากระบะทรายบ่อยครั้ง พร้อมการทิ้งของเสียอย่างอุจจาระเหลวไว้ ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง หรืออาจมีมูกเลือดเจือปนออกมา ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน! ดังนั้นเจ้าของต้องรีบพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้พาไปพบแพทย์ก็ควรหาวิธีรักษาและดูแลเบื้องต้นไปก่อน เพื่อไม่ให้แมวต้องเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำจนอาจจะทำให้เสียชีวิตไปในที่สุด 

เรื่องควรเข้าใจเกี่ยวกับอาการแมวท้องเสีย

แมวที่มีอาการท้องเสียอาจจะเกิดได้จากปัจจัยเล็กน้อย เพียงแค่การกินอาหารที่ไม่เหมาะสม, อาหารเน่าเสีย หรืออาหารปนเปื้อนเชื้อต่าง ๆ ไปจนถึงการเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโรคร้ายที่อาจจะแทรกซ้อนอยู่ภายในตัวน้องแมวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ที่เป็นเจ้าของ คือ การนำพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันทีที่พบว่าแมวเริ่มถ่ายเหลวผิดปกติมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป แต่ถ้าการถ่ายเหลวครั้งแรกพบเป็นมูกเลือดเจือปนก็ไม่ควรรอช้า! เพราะอาจจะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เร็วมากขึ้น 

เมื่อแพทย์ได้วินิจฉัยอย่างละเอียดแล้ว จะได้พบถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อทำให้สามารถดูแลและรักษาน้องแมวต่อไปได้อย่างถูกต้องที่สุด ดังนั้นเรื่องสำคัญของผู้ที่มีปัญหาน้องแมวท้องเสีย คือ การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้า แต่ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้พาไปพบสัตวแพทย์ได้ หรืออาจจะต้องรอเวลาการเปิดของคลินิกสัตวแพทย์ คุณก็ควรรู้วิธีการดูแลเบื้องต้น เพื่อไม่ทำให้ปัญหาท้องเสียเล็ก ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจจะทำให้ต้องเข้ารักษาอย่างเร่งด่วน หรือเสียชีวิตได้ง่ายอีกด้วย

แมวท้องเสีย เกิดจากสาเหตุใด

การเกิดปัญหาแมวท้องเสียนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนั้นคุณจึงควรต้องติดตามพฤติกรรมให้ดี แต่สาเหตุหลักที่มักจะทำให้แมวท้องเสียจะมีดังนี้

  • การกินอาหารสกปรก ติดเชื้อ หรืออาหารที่มีพยาธิ จึงทำให้เกิดปัญหาลำไส้อักเสบ 
  • มีอาการอักเสบ ติดเชื้อ และเลือดออกที่ระบบย่อยอาหารส่วนบน 
  • อาหารที่ให้น้องแมวมีความเข้มข้นมากเกินไปหรือมีขนาดเม็ดที่แข็ง จึงทำให้ระบบการย่อยไม่ดีและน้ำภายในร่างกายถูกดูดออกไปใช้งานมากผิดปกติ 
  • กินอาหารที่มีการปนเปื้อนสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ 
  • มีภาวะลำไส้แปรปรวน ทำงานผิดปกติ 
  • การออกกำลังกายที่มากเกินความจำเป็น ทำให้ภาวะสมดุลในร่างกายไม่เหมาะสม  
  • สัญญาณเตือนของโรคร้าย เช่น โรคลำไส้อักเสบขั้นรุนแรง, โรคไตวาย, โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร และอีกหลายโรคที่จำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัยเท่านั้น

อาการของแมวท้องเสีย

การติดตามดูพฤติกรรมการขับถ่ายของน้องแมวอย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งถ้าคุณต้องการรู้ว่าน้องแมวของคุณมีอาการท้องเสียแล้วหรือยัง? สามารถติดตามดูอาการต่อไปนี้

  • อุจจาระออกมาเหลว ส่วนมากจะเหลวจนเป็นน้ำ ไม่มีเนื้อ ไม่เป็นก้อน 
  • อุจจาระเหลวที่มาพร้อมกับเมือกและอาจจะมีเลือดติดมาด้วย 
  • อุจจาระเหลวที่มาพร้อมกับเส้นพยาธิและปรสิตบางชนิด 
  • มีการถ่ายเหลวร่วมกับอาการซึมลงอย่างเห็นได้ชัด 
  • มีอาการอ่อนเพลีย ไม่อยากให้ขยับตัว และเริ่มไม่กินอาหาร
  • มีความเครียดสูง จึงทำให้ไม่เข้าพวกกับแมวตัวอื่น นอนหลบมุมหรือมีอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรงผิดปกติ 
  • มีอาการอาเจียนร่วมด้วย 
  • ถ้าอาการหนักมากอาจจะทำให้ทรงตัวไม่อยู่ เดินไม่ไหว หรือเดินเซ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าแมวอาจจะขาดน้ำอย่างรุนแรงและเสี่ยงต่ออาการช็อคจนเสียชีวิตได้

เมื่อแมวท้องเสีย ควรดูแลอย่างไร

เมื่อแมวเริ่มมีอาการท้องเสีย คุณควรดูแลก่อนไปถึงมือสัตวแพทย์ ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง คือ

  • หยุดการให้อาหารทุกประเภท 
  • เพิ่มการให้น้ำที่มีความสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดน้ำ 
  • ถ้าน้องแมวไม่ยอมกินน้ำ ให้ใช้ไซริงค์ดูดน้ำเพื่อป้อนน้ำตลอดทั้งวัน 
  • เพื่อลดความอ่อนเพลียและการเสียน้ำ ให้ผสมน้ำเกลือแร่กับน้ำอุ่นสะอาด แล้วดูดใส่ไซริงค์เพื่อป้อนน้องแมวเรื่อย ๆ 
  • เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นให้ปรับเปลี่ยนเป็นอาหารเปียกก่อน เพื่อเป็นการปรับระบบลำไส้กับกระเพาะอาหาร 
  • เลือกสูตรอาหารสำหรับรักษาแมวท้องเสียโดยเฉพาะ 
  • ถ้าเลือกเป็นอาหารสูตรพิเศษสำหรับแมวมีอาการท้องเสียแบบเม็ด ควรเลือกเม็ดที่มีความนุ่ม เคี้ยวง่าย และย่อยสลายได้เร็วที่สุด 
  • จัดพื้นที่พักผ่อนที่มีความสงบและจัดกระบะทรายไว้ใกล้กับที่นอนอย่างเหมาะสม 
  • แยกแมวที่มีอาการท้องเสียออกจากแมวตัวอื่น 
  • งดการทำให้แมวรู้สึกเครียด ควรจัดพื้นที่ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกและไม่เข้าไปยุ่งกับแมวบ่อยมากนัก แต่ให้ตามดูพฤติกรรมอยู่ห่าง ๆ 
  • ถ้าพบว่าอาการของน้องแมวไม่ดีขึ้นและมีการถ่ายติดมูกเลือด ควรรีบส่งสัตวแพทย์อย่างรวดเร็ว

อาหารที่เหมาะสำหรับแมวท้องเสีย ควรเป็นอาหารแบบไหน 

อาหารคือส่วนสำคัญที่จะช่วยรักษาทั้งระบบกระเพาะและลำไส้ของน้องแมว พร้อมช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอาหารให้เหมาะสม ดังนี้

1.อาหารสูตรแมวท้องเสีย

อาหารสำเร็จสูตรแมวท้องเสีย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเม็ดหรือแบบอาหารเปียก ถือว่าเหมาะสมมากที่สุด เพราะจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้แมวหยุดอาการท้องเสียได้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุด โดยจะมีส่วนผสมของโปรตีนที่ย่อยสลายง่าย รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่จะไม่สูงเกินไป มีสารอาหารที่ย่อยได้ง่าย มีทั้งกรดไขมันดี, โอเมก้า 3, วิตามิน, แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญต่าง ๆ ที่จะทำให้แมวลดเชื้อภายในลำไส้ ทำให้อุจจาระที่ขับถ่ายออกมาเป็นก้อน อาการท้องเสียจึงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

2.อาหารฟื้นฟู

อาหารสูตรฟื้นฟูควรกินหลังอาการท้องเสียเริ่มเบาบางลง เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบทางเดินอาหารทั้งหมดและป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน ที่อาจนำพาโรคร้ายมาสู่น้องแมวได้ ทั้งยังเป็นตัวช่วยเสริมสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงอย่างรวดเร็ว ช่วยในเรื่องการควบคุมเรื่องก้อนขน ควบคุมน้ำหนัก และมีพรีไบโอติกที่จะทำให้ระบบย่อยอาหารกลับมามีความสมดุลใหม่อีกครั้ง 

3.อาหารสดทำเอง

ถ้าคุณต้องการให้อาหารสูตรทำเอง ควรเลือกเป็นอาหารที่มีความสดใหม่ มีการปรุงสุกอยู่เสมอ แต่ควรรอให้อาหารอุ่นก่อนจึงค่อยให้น้องแมว โดยเลือกใช้เป็นเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวง่ายและให้โปรตีนสูงอย่างเนื้อปลาทะเลหรือเนื้อไก่บด ผสมกับข้าวสุกที่ต้มกับน้ำซุปจนเปื่อย ซึ่งถือว่าเป็นสูตรอาหารสดที่สามารถทดแทนอาหารเปียกได้ดีเลยทีเดียว

สิ่งที่ควรป้องกัน เพื่อไม่ให้แมวกลับมาท้องเสีย

ถ้าคุณไม่ต้องการให้แมวสุดที่รักต้องกลับมาเสี่ยงต่อปัญหาท้องเสียอีกครั้ง คุณควรรู้วิธีป้องกันที่จะช่วยลดปัญหาท้องเสียและโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาหลังท้องเสียได้ คือ

  • เลือกสูตรอาหารที่ช่วยรักษาระบบทางเดินอาหารของแมว 
  • ถ้าให้อาหารเม็ดควรเป็นอาหารที่มีความนุ่ม ไม่แข็งมากและย่อยได้ดี ทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้ 
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารคน เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย 
  • ควรเลี้ยงระบบปิด เพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวออกไปคุ้ยขยะหรือกินอาหารเน่าเสีย รวมไปถึงป้องกันการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก 
  • กระตุ้นให้แมวกินน้ำตลอดทั้งวัน 
  • ให้อาหารอย่างเหมาะสม ไม่ควรให้มากจนเกินไป 
  • ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่เป็นสารเคมีหนัก เพราะอาจทำให้แมวกลืนสารเคมีแล้วกลายเป็นอาการท้องเสียอย่างรุนแรงได้ 
  • จัดพื้นที่นอนและพื้นที่ขับถ่ายให้มีความเป็นส่วนตัว มีความสะอาดอยู่เสมอ 
  • รักษาความสะอาดของภาชนะใส่อาหารและภาชนะใส่น้ำเป็นประจำ

แม้ว่าอาการท้องเสียอาจจะดูไม่น่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าปล่อยให้น้องแมวท้องเสียติดต่อกันบ่อยหลายครั้ง หรือเป็นแล้วกลับมาเป็นอีกอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นการบ่งบอกได้ถึงโรคร้ายที่แทรกซ้อนอยู่ภายในตัวของน้องแมว ถ้าไม่รีบรักษาอาจจะนำพาซึ่งอาการป่วยและทุกข์ทรมานมาสู่น้องแมวได้ ที่สำคัญที่สุดคืออาจจะทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ ติดตามดูพฤติกรรมน้องแมวอยู่เสมอ เมื่อพบว่าท้องเสียควรดูแลเบื้องต้นให้ดีและถ้าอาการรุนแรงขึ้น จนถึงขั้นถ่ายแล้วมีมูกเลือดหรือพยาธิ ควรรีบนำไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องทันที

 

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

แนะนำ 9 อาหารสำหรับ แมวควบคุมน้ำหนัก ที่ดีที่สุด

9 อาหารแมวสูตรควบคุมน้ำหนัก แมวใครอ้วน น้ำหนักเกิน ต้องจัดให้ไว!

หลายคนทราบดีว่าน้ำหนักตัวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยบ่งบอกถึงสุขภาพได้เป็นอย่างดี สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมวก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการควบคุมปริมาณอาหารก็อาจทำให้น้องแมวตัวโปรดของคุณมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ และหากแมวมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาหัวใจ หลอดเลือด และความเครียด ซึ่งปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม คือ สายพันธุ์ยุโรปที่มีขนสั้น, แมวที่อายุ 5-10 ปีที่ไม่ค่อยขยับตัว หรือแมวที่กินอาหารบ่อย เป็นต้น สำหรับวิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ คือการให้น้องแมวได้กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างโดยตรงนั่นเอง และวันนี้เราก็หยิบมาแนะนำกันแล้วหลากหลายสูตรดังนี้

>> รวมรายการ อาหารแมวลดน้ำหนัก ของแท้ เชื่อถือได้ คลิกที่นี่ได้เลย


1.Royal Canin อาหารแมวสูตร Satiety Weight Management Cat

แมวอ้วนอาจดูน่ารัก แต่โรคร้ายอาจถามหาได้ ดังนั้น เจ้าของจึงสามารถป้องกันได้โดยการให้น้องแมวได้กินอาหารจาก Royal Canin สูตร Satiety Weight Management Cat ชนิดเม็ด เพราะเป็นสูตรที่เหมาะสำหรับแมวอ้วนที่ต้องการลดน้ำหนักและลดอาการหิวบ่อย อีกทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนักให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้อย่างปลอดภัย ซึ่งงานวิจัยได้บอกว่า 97% ที่หากน้องเหมียวได้ทานอาหารตามคำแนะนำ น้ำหนักจะลดลงภายใน 3 เดือน และควรใช้ต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาอ้วนซ้ำ รวมถึงยังเป็นการปรับพฤติกรรมการทานอาหารได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ อาหารแมวสูตรดังกล่าวอาหารยังช่วยให้อิ่มนาน แถมสารอาหารก็ครบถ้วนอีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท 

>> สั่งซื้อ Royal Canin อาหารแมวสูตร Satiety Weight Management Cat ของแท้ ราคาถูก คลิก


2.Royal Canin อาหารแมวสูตร VD CAT SATIETY

ต่อกันด้วยอาหารแมวสูตร VD CAT SATIETY ชนิดเปียก เหมาะสำหรับแมวที่ต้องการลดน้ำหนัก และช่วยควบคุมการลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ป้องกันการกลับมาอ้วนซ้ำได้ อีกทั้งยังช่วยลดพฤติกรรมการขออาหารที่เหล่าคนเลี้ยงมักจะเจออยู่เป็นประจำ บางครั้งการที่แมวมีน้ำหนักเกิน เป็นเพราะการทานอาหารที่มากเกินไป และไม่ใช่อาหารแมวอีกด้วย สำหรับสูตรนี้จะช่วยทำให้อิ่มนานยิ่งขึ้น พร้อมรักษามวลกล้ามเนื้อ เพราะมีโปรตีนสูง นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดนิ่วในแมว และปรับสภาพแวดล้อมในระบบทางเดินปัสสาวะให้ทำงานได้อย่างปกติ ราคาอยู่ที่ประมาณ 60 บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin อาหารแมวสูตร VD CAT SATIETY ชนิดเปียก ราคาถูก คุ้มค่าเกินราคา คลิก


3.Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร M/D Feline Dry Food-1.81 kg

อาหารแมวแบรนด์ Hill’s Prescription Diet กับสูตร M/D Feline Dry Food เหมาะสำหรับแมวที่มีปัญหาสุขภาพ ช่วยควบคุมการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันอาการหิวบ่อยของน้องแมวได้ดี สำหรับสูตรนี้มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีน, คาร์นิทีน ที่ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไม่ให้หายไประหว่างลดน้ำหนัก และยังเพิ่มในเรื่องของการเผาผลาญที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง โดยผ่านการพิสูจน์จากทางการแพทย์ที่ช่วยลดไขมันในร่างกายสัตว์ได้จริง ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร M/D Feline Dry Food ชนิดเม็ด ช่วยลดน้ำหนักที่ดีที่สุด  คลิก


4.Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร M/D Feline ชนิดเปียก แบบกระป๋อง – 2.9 oz.

ยังคงอยู่กันที่สูตร M/D Feline ชนิดเปียกที่มาในแบบกระป๋องพกพาง่าย เปิดกินได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับแมวที่ต้องการลดน้ำหนักและป้องกันอาการหิวบ่อย อีกทั้งยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไม่ให้หายไประหว่างการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แถมสารอาหารภายในก็ครบถ้วน ทั้งโปรตีนสูง, คาร์โบไฮเดรตต่ำ หากก็อุดมไปด้วยอาร์จินีนและทอรีน พร้อมทั้งผ่านพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง คุณจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าน้องแมวจะไม่สามารถลดน้ำหนักได้ หากคุณจัดสรรปริมาณอาหารได้อย่างพอดี และพาเขาไปทำกิจกรรมอย่างการออกกำลังกายเป็นประจำ รับรองแมวสุดรักต้องกลับมาสุขภาพดีแน่นอน ราคาอยู่ที่ ประมาณ 80 บาท 

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร M/D Feline ชนิดเปียกที่บรรจุกระป๋อง ราคาถูกและดีที่สุด คลิก


5.Royal Canin อาหารแมวสูตร Neutered Satiety Balance

มาถึงอาหารแมวสูตรพิเศษ ซึ่งเป็นสูตร Neutered Satiety Balance จาก Royal Canin  ชนิดแห้ง เหมาะสำหรับแมวที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือเพิ่งผ่านการทำหมัน และต้องการควบคุมพลังงานให้พอดี โดยสูตรนี้จะช่วยน้องแมวของคุณได้ เพราะมีสารอาหารครบถ้วน จึงช่วยควบคุมรูปร่างให้สมส่วนได้ นอกจากนี้ ยังมีการเสริมแอลคาร์นิทีนที่ช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วของแมว พร้อมปรับสภาพของปัสสาวะให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง จัดเป็นอาหารแมวที่คุณไม่ควรพลาด ยิ่งแมวที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานด้วยแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้อันตรายแน่ ราคาอยู่ที่ ประมาณ 179 – 2,400 บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin อาหารแมวสูตรNeutered Satiety Balance ชนิดเม็ด สูตรช่วยลดน้ำหนักได้ผลจริง คลิก


6.Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Digestive/Weight Management w/d Feline

มาถึงอาหารแมวชนิดแห้งกันบ้าง โดยอาหารแมวสูตรนี้เหมาะสำหรับแมวที่ต้องการคุมน้ำหนัก และเร่งระบบการเผาผลาญภายในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อที่หายไปจากการลดน้ำหนักได้ด้วย ซึ่งสูตรนี้มีสารอาหารครบถ้วน หากแมวของคุณมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน ร้องขออาหารบ่อยเกินไป Hill’s Prescription Diet คือคำตอบที่ใช่แน่นอน เพราะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ ทำให้แมวรู้สึกอิ่ม ไม่ต้องไปเดินร้องขออาหารให้เป็นการกวนใจ และช่วยดูแลระบบทางเดินปัสสาวะให้มีสุขภาพดีได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เนื่องจากแมวอ้วนย่อมมีปัญหาสุขภาพตามมามากมาย ราคาอยู่ที่ประมาณ 800 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Digestive/Weight Management ชนิดเม็ด ของแท้ เชื่อถือได้ คลิก


7.Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Metabolic Feline

ยังคงอยู่ที่ Hill’s Prescription Diet กับสูตร Metabolic Feline ชนิดแห้ง เหมาะสำหรับน้องแมวที่อยากลดน้ำหนัก และกลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สำหรับสูตรนี้มีสารอาหารแบบครบถ้วน ช่วยให้ระบบการเผาผลาญของแมวกลับมามีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันน้ำหนักตัวขึ้นหลังจากที่ลดน้ำหนัก ซึ่งข้อนี้ถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะแม้แมวจะลดน้ำหนักได้ แต่ก็กลับมามีน้ำหนักเยอะได้เช่นเดียวกัน แต่อาหารสูตรนี้ หากน้องแมวกินไปแล้ว รับรองจะทำให้รู้สึกอิ่มนาน และช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้แบบโดยรวม คุณจึงหมดกังวล เรื่องเจ้าเหมียวน้ำหนักตัวเกินนั่นเอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 900 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Metabolic Feline ชนิดเม็ด ราคาคุ้มค่า คลิก


8.Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Metabolic + Urinary Feline

สำหรับสูตร Metabolic + Urinary Feline ชนิดแห้ง มาพร้อมสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะสำหรับน้องแมวที่มีปัญหาสุขภาพ ทั้งน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน และอาการของโรคนิ่ว เป็นต้น ซึ่งสูตรนี้จะทำงานร่วมกับระบบเผาผลาญของสัตว์เลี้ยงได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม และช่วยละลายก้อนนิ่วสตรูไวท์ที่เป็นศัตรูตัวร้ายของน้องเหมียวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้แมวของคุณรู้สึกอิ่มนาน ไม่ต้องเดินร้องขออาหารอีกต่อไป ทั้งนี้ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพแบบโดยรวม ทำให้น้องแมวกลับมาร่าเริงสดใส ทานอาหารได้อย่างพอดี และมีรูปร่างที่สมส่วนอีกครั้ง ราคาอยู่ที่ ประมาณ 1,800 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Metabolic + Urinary Feline ชนิดเม็ด ลดหนักอย่างปลอดภัยที่สุด คลิก


9.Hill’s Prescription Diet สูตร Digestive/Weight Management w/d Feline

ปิดท้ายด้วย Hill’s Prescription Diet สูตร Digestive/Weight Management w/d Feline ชนิดเปียกแบบกระป๋อง เหมาะสำหรับน้องแมวที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะสูตรนี้จะช่วยทำให้แมวรู้สึกอิ่มได้อย่างเต็มที่ โดยมาพร้อมสารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยเติมแอลคาร์นิทีนในระดับที่เหมาะสม สามารถผสมผสานระหว่างใยอาหารที่สามารถละลายน้ำและไม่ละลายน้ำได้ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ผ่านการรับรองโดยงานวิจัยจากทางคลินิกทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และบำรุงกล้ามเนื้อได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ราคาอยู่ที่ ประมาณ 110 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารแมวสูตร Digestive/Weight Management ชนิดเปียก ราคาถูกที่สุด คลิก


สำหรับน้องแมวของใครที่มีปัญหาน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือน้องแมวมีปัญหาความอ้วน แนะนำให้เจ้าของควรรีบเปลี่ยนอาหารให้น้องแมวใหม่ด่วน โดยเฉพาะ 9 อาหารแมวสูตรช่วยควบคุมน้ำหนักดังที่เรานำมาฝากข้างต้นนี้ ล้วนอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ช่วยลดความหิวของน้องแมวที่บ่อยเกินไป แถมยังช่วยดูแลสุขภาพระยะยาว ลดโอกาสในการเจ็บป่วยลงได้อีกด้วย และที่สำคัญกินแล้วน้องแมวไม่มีอ้วนแน่นอน เพราะเป็นอาหารแมวสูตรควบคุมน้ำหนักที่ได้ผลจริงนั่นเอง

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

จัดอันดับ 3 อาหารแมว หลังทำหมัน ที่เหมาะกับแมวที่สุด

แนะนำ 3 อาหารแมวหลังทำหมัน ประโยชน์สูง ฟื้นฟูร่างกายได้ไว

ทำไมต้องทำหมันแมว? เป็นคำถามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย แต่หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ “การทำหมันแมว” คือการควบคุมจำนวนประชากรแมวไม่ให้มีมากเกินไปนั่นเอง เพราะแมวสามารถตั้งท้องได้ 4 ครั้งต่อปี แถมจำนวนลูกแมวในแต่ละครั้ง นับเป็นจำนวนก็ 4-5 ตัวต่อการคลอดหนึ่งครั้งกันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เจ้าของจึงต้องพาไปทำหมันนั่นเอง ซึ่งการทำหมันนอกจากจะช่วยควบคุมประชากรน้องแมวให้ลดน้อยลงได้แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางชนิดในเจ้าเหมียวลงได้อีกด้วย

>> รวมรายการ อาหารแมวหลังทำหมัน ของแท้ คุณภาพดี ซื้อง่ายๆส่งตรงถึงบ้าน คลิกที่นี่ได้เลย


3 อาหารแมวหลังทำหมันที่เจ้าของไม่ควรพลาด!

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าหลังจากการทำหมันแล้ว แมวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม ทั้งเพศผู้และเพศเมีย ทำให้เจ้าของต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากเป็นแมวเพศผู้ หลังทำหมันจะแสดงอาการดุร้าย ส่วนเพศเมียจะส่งเสียงร้อง และบิดไปบิดมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเพศผู้ ซึ่งการดูแลแมวหลังทำหมันนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ คือเริ่มเลือกอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกายน้องแมว เพราะน้ำหนักของแมวจะเพิ่มสูงขึ้นหลังทำหมัน ดังนั้นเจ้าของต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อแมวมากที่สุด เราจึงนำ 3 อาหารที่เหมาะสำหรับแมวหลังทำหมันมาแนะนำกันดังนี้

1.Royal Canin อาหารแมว สูตร Neutered Satiety Balance

สำหรับสูตร Neutered Satiety Balance ชนิดแห้ง เหมาะสำหรับน้องแมวหลังจากทำหมัน 7 ปี ช่วยควบคุมพลังงานและทำให้สุขภาพของเจ้าเหมียวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เพราะหลังจากการทำหมัน สุขภาพและอารมณ์ของสัตว์เลี้ยงคุณจะมีความแปรปรวน แต่ก็สามารถแก้ได้ง่ายๆ จากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยสูตรนี้จะมีไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มนาน ช่วยปรับพฤติกรรมของแมว ลดการขออาหารระหว่างมื้อ จึงช่วยปรับรูปร่างให้กลับมาสมส่วนได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมแอลคาร์นิทีนเพื่อช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในแมวลงได้อีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 179-2,400  บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin สูตรNeutered Satiety Balance อาหารแมวสำหรับแมวหลังทำหมัน ของแท้ ปลอดภัย แน่นอน คลิก


2.Royal Canin สูตร Vet Care Neutered Young Male cat

ต่อด้วย Royal Canin สูตร Vet Care Neutered Young Male cat เหมาะสำหรับแมวเพศผู้ หลังจากการทำหมัน 1-7 ปี โดยอาหารแมวสูตรนี้จะช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้ดี นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยลดปริมาณพลังงานจากแป้ง และช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานได้ ซึ่งแมวตัวผู้หลังจากทำหมันแล้วจะมีอารมณ์ที่ดุร้าย และมีพฤติกรรมไล่กัดแมวรอบๆ ดังนั้น การเลี้ยงอย่างถูกวิธี จึงควรพาน้องแมวไปออกกำลังกาย และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็จะช่วยปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้ ราคาอยู่ที่ ประมาณ 190-550 บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin สูตร Vet Care Neutered Young Male cat อาหารแมวสำหรับเพศผู้ หลังทำหมัน ที่ดีที่สุด  คลิก


3.Royal Canin สูตร Vet Care Neutered Young Female cat

ปิดท้ายด้วยอาหารแมวหลังทำหมันสูตร Vet Care Neutered Young Female cat ที่เหมาะสำหรับแมวเพศเมีย หลังจากการทำหมันตั้งแต่ 1-7 ปี ช่วยควบคุมน้ำหนักให้กลับมาสมส่วน มาพร้อมสารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยลดปริมาณพลังงานจากแป้ง และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในแมวลงได้ ซึ่งพฤติกรรมของแมวเพศเมียหลังจากการทำหมัน จะส่งเสียงร้องไปรอบๆ พื้นที่ และเดินบิดไปบิดมา เพื่อร้องเรียกหาตัวผู้นั่นเอง อีกทั้งน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากไม่คุมปริมาณอาหาร ก็เสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคอ้วนได้ เจ้าของจึงต้องใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเจ้าเหมียวให้กลับมาปกติ ราคาอยู่ที่ ประมาณ 190-550 บาท

>> สั่งซื้อ Vet Care Neutered Young Female cat อาหารแมวสำหรับแมวเพศเมีย หลังทำหมัน ราคาไม่แพง คุณภาพเกินราคา  คลิก


สำหรับใครที่เพิ่งพาเจ้าเหมียวไปทำหมันมา และไม่อยากให้สัตว์เลี้ยงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือก่อความวุ่นวาย ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เลือกอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกายโดยเฉพาะอาหารแมวสูตรหลังทำหมันดังที่เราแนะนำไป และอย่าลืมที่จะให้ความรัก ความอบอุ่นกับน้องแมวอย่างสม่ำเสมอด้วยจะดีที่สุด

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

รีวิว 9 อันดับ อาหารแมวโรคไต ที่ขายดีที่สุดในเวลานี้

9 อาหารแมวที่ป่วยโรคไต สารอาหารครบครัน กินรักษาป้องกันได้ในหนึ่งเดียว

“ภาวะไตวาย” ในน้องแมวซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงสุดรักของใครหลายคน จัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยและมีความรุนแรงมากที่สุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับแมวที่มีอายุมาก โดยโรคไตสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ภาวะไตวายเฉียบพลันและภาวะไตวายเรื้อรัง สาเหตุหลักของโรคเกิดจากการไหลเวียนเลือดหรือปัสสาวะในไตลดลง หรือมีสิ่งอุดตันภายในร่างกาย เช่น นิ่วในไต เป็นต้น และสำหรับการดูแลในเบื้องต้นนั้นเจ้าของควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีฟอสฟอรัสหรือโปรตีนสูง แต่ควรเลือกอาหารที่ถูกหลักตามโภชนาการ ดังนั้น บทความนี้เราจึงนำ 9 อาหารแมวที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคไตมาฝากกันดังนี้

>> คัดมา 9 อาหารแมวสูตรรักษาโรคไต ลดราคาถูกที่สุด คลิกที่นี่ได้เลย


1.Royal Canin อาหารแมวสูตร Renal Feline Loaf in Can

เริ่มต้นด้วยแบรนด์ที่หลายคนวางใจ กับ “Royal Canin” ซึ่งเป็นอาหารแมวสูตรพิเศษที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันและรักษาโรคไตได้เป็นอย่างดี โดยอาหารแมวสูตรนี้เป็นแบบเนื้อมูส 195 กรัม ส่วนผสมหลักมีทั้งเนื้อไก่, ไตสุกร, ตับไก่, ข้าวโพด และแซลมอน เป็นต้น อีกทั้งมีแร่ธาตุและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าเหมียวอย่างครบถ้วน สำหรับคุณค่าทางสารอาหาร ต้องบอกเลยว่ามีโปรตีนไม่น้อยกว่า 5.5%, ไขมันไม่น้อยกว่า 4.5% เป็นต้น หากมองถึงคุณประโยชน์ เรียกได้ว่าครบเครื่อง เพราะมีสารอาหารที่เหมาะสมต่อแมวที่เป็นโรคไตโดยตรง นอกจากนี้ยังมีการควบคุมปริมาณฟอสฟอรัส พร้อมช่วยชะลอการพัฒนาหรือการเติบโตของโรคได้ ช่วยให้ไตทำงานหนักน้อยลง และช่วยรักษาสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย อีกทั้งยังทำให้แมวอยากทานอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นกลิ่นที่แมวชื่นชอบตามหลักการ Aromatic Profile รับรองเลยว่าแมวไม่เมินอย่างแน่นอน ราคาอยู่ที่ประมาณ 110 บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin อาหารเเมว สูตร Renal Feline Loaf in Can อาหารประกอบการรักษาโรคไต ราคาถูกที่สุด คลิก


2.Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร K/D Early Support Feline Chicken, Vegetable & Rice Stew

เป็นอาหารที่ออกแบบมาเพื่อแมวที่เป็นโรคไตในระยะแรก ซึ่งเป็นอาหารชนิดเปียกในปริมาณ 2.9 oz. อาหารแมวสูตรนี้มาพร้อมคุณค่าทางโภชนาการแบบครบครัน อีกทั้งยังได้รับการรับรองและพิสูจน์จากทางคลินิกทางการแพทย์มาแล้วว่าสามารถช่วยรักษาการทำงานของไต และช่วยให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ และดูแลทางเดินปัสสาวะ เพื่อลดการอุดตันภายใน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดแคลเซียมออกซาเลตได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมปริมาณฟอสฟอรัสและโซเดียม ช่วยให้ไตไม่ทำงานหนักจนเกินไป และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลร่างกายไปพร้อมกันด้วย ไม่เพียงเท่านั้น อาหารแมวดังกล่าวยังเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ลดการเจ็บป่วยให้น้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แมวกลับมาทานอาหารได้มากขึ้น ควรผสมอาหารสูตรใหม่กับอาหารสูตรเก่าในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีการปรับตัว และเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 70 บาท

>> สั่งซื้อ Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร K/D Early Support Feline Chicken, Vegetable & Rice Stew รักษาโรคไต ราคาถูกและดีที่สุด คลิก


3.Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร k/d Early Support Feline Chicken

สำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไต และกำลังมองหาอาหารแมวที่ดีต่อร่างกาย ต้องนึกถึงแบรนด์ Hill’ s Prescription Diet โดยแบรนด์นี้มีสูตรพิเศษ k/d Early Support Feline Chicken ที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาการทำงานของไตและช่วยให้ร่างกายของแมวที่ป่วยกลับมาแข็งแรงขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งอาหารแมวสูตรนี้มาพร้อมโปรตีนคุณภาพสูง 160% มีกรดอะมิโนที่ช่วยในการดูดซึมสารอาหาร สามารถควบคุมฟอสฟอรัสและโซเดียมเพื่อช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องเซลล์จากเชื้อร้าย และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกรดโอเมก้า 3 จากน้ำมันตับปลา ที่จะช่วยต้านการอักเสบ มีแอลคาเนทีนที่ช่วยรองรับกล้ามเนื้อ ถือเป็นตัวเลือกดีๆ ให้กับคนที่อยากได้อาหารแมวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ รับรองจะช่วยฟื้นฟูร่างกายน้องแมวที่กำลังป่วยให้หายเร็วขึ้น และกลับมาร่าเริงได้อีกครั้งได้อย่างแน่นอน ราคาอยู่ที่ประมาณ 900 – 1,600 บาท (แล้วแต่ขนาด)

 >> สั่งซื้อ Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตรพิเศษ k/d Early Support Feline Chicken เพื่อดูแลสุขภาพของแมวคุณ คลิก


4.Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร k/d Feline with Ocean Fish

อาหารแมวที่ป่วยเป็นโรคไตชนิดแห้งซึ่งเป็นรสปลาทะเล โดยถือเป็นหนึ่งสูตรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง อาหารแมวสูตรนี้มาพร้อมสารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยปกป้องหัวใจและไตไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป เพราะหน้าที่ของไตจะช่วยคัดกรองของเสียและสารพิษออกจากเลือด อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของเหลวในแร่ธาตุ เป็นต้น ซึ่งแมวที่ป่วยเป็นโรคไตจะไม่อยากทานอาหาร และทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ แต่สำหรับอาหารแมวสูตรนี้ จะช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อตามธรรมชาติ และกระตุ้นความอยากอาหารให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังผ่านการพัฒนาและพิสูจน์จากนักโภชนาการมาแล้ว จึงช่วยให้คุณมั่นใจก่อนเลือกให้สัตว์เลี้ยงทานได้อย่างแน่นอน และทางแบรนด์ยังรับรองอีกด้วยว่าจะช่วยให้แมวของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ทั้งยังมีอายุยืนขึ้นแน่นอน ราคาอยู่ที่ประมาณ 950 – 1,700 บาท (แล้วแต่ขนาด)

 >> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารเเมว สูตร k/d Feline with Ocean Fish ประรักษาโรคไต รสปลาทะเล ชนิดแห้ง  ปลอดภัย ของแท้ นิยมที่สุด คลิก


5.Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร k/d Feline with Chicken (แบบกระป๋อง)

ใครที่กำลังมองหาอาหารแมวแบบกระป๋อง ต้องนี่เลย Hill’ s Prescription Diet สูตร k/d Feline with Chicken ชนิดเปียก แบบกระป๋อง 5.5 oz. เหมาะสำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไต หรือต้องการอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วน โดยสูตรนี้จะช่วยควบคุมระดับฟอสฟอรัสและโซเดียม ไม่ให้ไตและหัวใจทำงานหนักเกินไป อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ รับประทานได้ง่าย เพราะมีกรดอะมิโนที่ช่วยในการดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของแมวเป็นอย่างดี คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าเจ้าเหมียวจะเมินอาหารแสนอร่อยนี้ นอกจากนี้ อาหารแมวสูตรดังกล่าวยังมาพร้อมโปรตีนคุณภาพดี มีแอลคาร์นิทีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ในระดับที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มอายุน้องแมวให้อยู่กับคุณได้นานมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ราคาอยู่ที่ประมาณ 105 บาท

 >> สั่งซื้อ Hill’ s Prescription Diet สูตร k/d Feline with Chicken ชนิดเปียก แบบกระป๋อง 5.5 oz. รักษาโรคไต คุ้มค่า คุณภาพดี ราคาถูก คลิก


6.Hill’ s Prescription Diet อาหารแมวสูตร k/d Feline with Chicken

เป็นอาหารแมวรักษาโรคไตชนิดแห้งที่มาพร้อมคุณค่าทางสารอาหาร ช่วยควบคุมระดับฟอสฟอรัสและโซเดียมในร่างกาย และยังช่วยปกป้องหัวใจไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งแมวที่ป่วยเป็นโรคไตมักจะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และไม่สามารถรับประทานอาหารได้มากนัก แต่สำหรับอาหารแมวสูตรนี้ของ Hill’ s Prescription Diet ได้นำเทคโนโลยี Enhanced Appetite Trigger เข้ามาผสมผสาน จึงสามารถช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และสร้างมวลกล้ามเนื้อได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยระดับกรดอะมิโนที่สูง จึงช่วยในเรื่องของการดูดซึมสารอาหาร และยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเจ้าเหมียวอีกด้วย ซึ่งสินค้าได้ผ่านการรับรองและผ่านการพิสูจน์จากนักโภชนาการมาแล้วว่ามีคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนดีต่อสุขภาพร่างกายน้องแมวแน่นอน ราคาอยู่ที่ประมาณ 950 – 1,700 บาท (แล้วแต่ขนาด)

 >> สั่งซื้อ Hill’s Prescription Diet อาหารเเมว สูตร k/d Feline with Chicken ประกอบการรักษาโรคไต ชนิดแห้ง ราคาพิเศษ ซื้อง่ายๆ คลิก


7.Royal Canin อาหารแมวสูตร Renal Select

ต่อด้วยอาหารแมวจาก Royal Canin กับสูตร Renal Select ชนิดเม็ดสอดไส้ ที่มีความกรอบนอกนุ่มใน เหมาะสำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ซึ่งอาหารแมวสูตรนี้มาพร้อมสารอาหารที่ช่วยลดการทำงานหนักของไต และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากของเสียในเลือด โดยควบคุมปริมาณโปรตีนได้อย่างเหมาะสม ช่วยควบคุมการเกิดนิ่วประเภท calcium oxalate และป้องกันนิ่วที่เกิดจากทางเดินปัสสาวะได้เป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายของน้องแมวกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง สำหรับส่วนผสมนั้นประกอบไปด้วยไขมันสัตว์, ข้าว, แป้งสาลี, โปรตีนหมูอบแห้ง และอื่นๆ เป็นต้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 325 – 1,730 บาท (แล้วแต่ขนาด) โดย Royal Canin สูตร Renal Select มีหลายสูตร และหลายขนาดให้เลือกสรร สามารถเลือกที่ตรงตามความต้องการ และเหมาะสมกับแมวของคุณได้

>> สั่งซื้อ Royal Canin สูตร Renal Select ชนิดเม็ดสอดไส้ รักษาโรคไตเรื้อรัง อาหารแมวคุณภาพดีราคาไม่แพง คลิก


8.Royal Canin อาหารแมวสูตร Renal ประกอบการรักษาโรคไต

อีกหนึ่งสูตรของ Royal Canin กับ Renal ที่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคไตเรื้อรัง หรือใครที่ต้องการควบคุมการเกิดนิ่วของแมว สูตรนี้ก็ช่วยยับยั้งได้ ซึ่งอาหารแมวสูตรนี้จะช่วยลดภาระการทำงานหนักของไต และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากของเสียภายในเลือดได้ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณโปรตีนในร่างกายให้เหมาะสม และเลือกใช้แต่โปรตีนคุณภาพดี ถือเป็นหนึ่งสูตรที่คนรักแมวต้องห้ามพลาด ราคาอยู่ที่ประมาณ 310-1,650 บาท (แล้วแต่ขนาด) การันตีคุณภาพจากแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่หลายๆ คนไว้วางใจ แม้โรคไตจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การได้รับอาหารที่ดีจะช่วยให้แมวของคุณมีอายุยืน และร่างกายแข็งแรงแน่นอน

>> สั่งซื้อ Royal Canin อาหารแมว สูตร Renal รักษาโรคไตเรื้อรัง การันตีคุณภาพดี แบรนด์แท้ ราคาไม่แพง คลิก


9.Royal Canin อาหารแมวสูตร Renal with Tuna

ปิดท้ายด้วย Royal Canin สูตร Renal with Tuna ชนิดเปียกแบบซอง 85 g. เหมาะสำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง หรือต้องการควบคุมการเกิดนิ่วที่เกิดจากไตทำงานผิดปกติ และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ อีกทั้งยังช่วยลดการทำงานหนักของไตและหัวใจได้ดี พร้อมควบคุมปริมาณโปรตีนในร่างกายได้อย่างเหมาะสม รับรองเลยว่าแมวของคุณจะกลับมาแข็งแรง และทานอาหารได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยให้สัตว์เลี้ยงได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน หมดกังวลเรื่องความยุ่งยากแน่นอน เพราะเป็นแบบซอง ฉีกใช้ง่าย สามารถรับประทานได้ทันที ราคาอยู่ที่ประมาณ 60 บาท

>> สั่งซื้อ Royal Canin สูตร Renal with Tuna ชนิดเปียกแบบซอง 85 g. เหมาะสำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ราคาถูก คุณภาพดี ของแท้  คลิก


สำหรับใครที่มองหาอาหารที่เหมาะกับแมวที่ป่วยเป็นโรคไต สามารถเลือกตามที่เราแนะนำได้เลย ทั้ง 9 สูตรข้างต้น รับรองว่าน้องแมวของคุณจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสม และยังช่วยยับยั้งหรือควบคุมโรคไม่ให้รุนแรงได้มากยิ่งขึ้นแน่นอน

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

แชทถามเรื่องอาหารแมว
คลิกที่นี่เพื่อ แอดไลน์มาได้เลย แอด Line คลิก