แมวท้องผูก ต้องทำอย่างไร ควรให้กินอาหารอะไรดีที่สุด
แมวท้องผูกถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาการที่น่ากังวลใจของผู้ที่เป็นเจ้าของแมวไม่น้อย เพราะต้องทนเห็นแมวสุดที่รักมีอาการปวดเบ่งแต่ไม่สามารถถ่ายหนักออกมาได้ตามปกติ จึงอาจทำให้เกิดอาการซึมและอาจจะพ่วงมาสู่อาการไม่ดีต่าง ๆ ที่นำพาไปสู่การเสียชีวิตได้ง่ายเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้แมวของคุณต้องเสี่ยงต่อภาวะท้องผูกจนถึงแก่ชีวิตได้ ควรเข้าใจถึงภาวะนี้ให้มาก พร้อมเรียนรู้วิธีการดูแล, การป้องกัน และการรักษาอย่างถูกต้องที่สุด
สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับอาการท้องผูกในแมว
อาการแมวท้องผูกสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วภายใน 1 สัปดาห์ แมวอาจจะมีอาการถ่ายไม่ออกประมาณ 1 ครั้ง และมากสุดอาจจะ 2-3 ครั้งภายใน 1 เดือน แต่ถ้าเมื่อใดที่เป็นบ่อยและเป็นเกือบทุกวัน จนก่อให้เกิดอาการปวดเบ่งที่เมื่อเข้ากระบะทรายแล้วกลับไม่สามารถถ่ายหนักได้ ทั้งยังต้องใช้เวลานานในการเบ่ง นั่นเป็นการบ่งบอกว่าแมวของคุณเกิดภาวะท้องผูกเรื้อรังที่อาจลุกลามไปสู่การเสียชีวิตได้ง่าย ดังนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของจึงควรใส่ใจในปัญหานี้ให้มาก เพราะก่อนที่แมวจะเสียชีวิตต้องทนทรมานกับอาการถ่ายไม่ออกและอาการข้างเคียงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เมื่อใดที่น้องแมวของคุณไม่ถ่ายตามปกติหรือเริ่มไม่ถ่ายติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป จะถือว่าเกิดอาการท้องผูกแล้ว แต่ถ้ายาวนานถึง 3-5 วันแล้วยังไม่ถ่ายจะถือว่าเป็นท้องผูกเรื้อรังทันที ดังนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจและควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อสังเกตอาการอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งอาการท้องผูกนั้นโดยส่วนมากแล้วจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารที่ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แมวเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายมากที่สุด
แมวเป็นโรคท้องผูก เกิดจากสาเหตุใด
อาการแมวท้องผูกนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่สาเหตุหลักที่พบได้มากที่สุดในแมวที่เป็นโรคนี้ คือ
-
- กินอาหารที่มีโปรตีนหนักและไขมันสูง รวมไปถึงสารอาหารต่าง ๆ ที่มีมากเกินไป
- ภายในอาหารไม่มีส่วนผสมของไฟเบอร์และ L-Carnitine จึงทำให้การขับถ่ายมีปัญหา
- แมวไม่ชอบกินน้ำหรือกินน้ำน้อย จึงทำให้อุจจาระแข็งตัวและขับถ่ายได้ยาก
- การเผลอกลืนของเล่นหรือวัสดุต่าง ๆ จึงทำให้เกิดปัญหาลำไส้อุดตัน นอกจากนี้ยังรวมถึงการทำความสะอาดขนบ่อยเกินไป จึงทำให้เกิดก้อนขนอุดตันลำไส้ได้เช่นกัน
- เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกช่วงเชิงกรานหัก
- เกิดปัญหาเนื้องอกภายในช่องท้องหรือช่วงกระดูกเชิงกราน
- เกิดอาการบาดเจ็บช่วงบริเวณก้นหรือข้อเข่า
- แมวที่มีน้ำหนักตัวมากและไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ค่อยขยับตัว จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องถ่ายยากด้วยเช่นกัน
อาการของโรคท้องผูก ในแมว
ถ้าคุณกำลังเริ่มสงสัยว่าแมวที่บ้านกำลังมีอาการท้องผูกหรือไม่ ลองดูอาการดังต่อไปนี้ ซึ่งถ้ากำลังเกิดขึ้นกับแมวของคุณต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที คือ
-
- ไม่ขับถ่ายติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป โดยเฉพาะการถ่ายหนัก
- เมื่อเข้ากระบะทรายแล้วมีการเบ่งอยู่นาน
- เข้ากระบะทรายบ่อยครั้งแล้วมีการถ่ายอุจจาระออกมาเป็นก้อนแข็งเพียงแค่ 1-2 ก้อนต่อรอบ จึงทำให้แมวต้องเข้ากระบะถี่ขึ้น
- มีอาการกระวนกระวายและหงุดหงิดง่าย
- ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เพราะมีอาการปวดท้องหนักขึ้น
- สำหรับแมวบางตัวอาจมีอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย แต่ถ่ายออกมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
- มีอาการอาเจียนและน้ำลายไหลตลอดเวลา
- อุจจาระมีความแข็งและเหม็นมากผิดปกติ
- มีอาการเบื่ออาหารและซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
- จมูกและเหงือกซีด
- มีอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง จนแมวบางตัวอาจมีอาการชักร่วมด้วย
- มีอาการเพลียอย่างเห็นได้ชัด นอนหมดแรงตลอดทั้งวัน
แมวเป็นโรคท้องผูก ควรดูแลอย่างไร
เมื่อแมวเป็นโรคท้องผูก สิ่งที่คุณควรทำคือการดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยวิธีต่อไปนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้น
-
- ปรับเปลี่ยนอาหารให้มีไฟเบอร์และลดอาหารหนักลง รวมไปถึงการให้อาหารเปียกแทน เพื่อทำให้ย่อยง่ายและถ่ายได้ดีขึ้น
- เลือกอาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวเป็นโรคท้องผูก ที่จะมีส่วนผสมถูกควบคุมมาแล้วอย่างเหมาะสม
- ตั้งจุดภาชนะใส่น้ำให้มากขึ้น ทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำและภาชนะใส่อาหารอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม
- ถ้าแมวไม่ยอมกินน้ำให้นำไซริงค์ดูดน้ำแล้วป้อนให้แมวตลอดทั้งวัน เพื่อทำให้แมวรู้สึกเคยชินมากขึ้น
- กระตุ้นให้แมวออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อทำให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนที่มากขึ้น
- สังเกตพฤติกรรมการขับถ่ายให้ดี ถ้าเมื่อใดแมวไม่ถ่ายหรือเริ่มมีอาการถ่ายแข็งติดต่อกัน 2 วัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
- ไม่ควรปล่อยให้มีของเล่นหรือวัสดุใด ๆ ที่เป็นชิ้นเล็กอยู่ในพื้นที่ของแมว เพราะอาจทำให้เกิดการกลืนจนอุดตันลำไส้ได้
- หวีขนแมวทุกวันเป็นประจำ เพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออก จะช่วยป้องกันก้อนขนอุดตันในลำไส้ได้ดี
- ถ้าพาไปพบสัตวแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณดูแลและให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่งอย่างตรงเวลา
- ถ้าอาการหนักจนถึงขั้นต้องผ่าตัดลำไส้ คุณจะต้องดูแลแผลผ่าตัดให้มีความสะอาดอยู่เสมอและปฏิบัติตามสัตวแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
อาหารที่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคท้องผูก ควรเป็นอาหารแบบไหน ให้อาหารอะไรได้บ้าง
อาหารถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แมวเกิดโรคท้องผูกได้ง่ายมากที่สุด ดังนั้นจึงควรต้องดูแลเรื่องนี้ให้ดีและเรื่องอาหารที่เหมาะสมต่อแมวเป็นโรคท้องผูกเท่านั้น แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าอาหารแบบใดที่จะช่วยทำให้การขับถ่ายของแมวเป็นไปอย่างคล่องตัว รักษาอาการได้ดี สามารถดูได้ดังต่อไปนี้
1.อาหารสูตรเฉพาะแมวท้องผูก
อาหารแมวสูตรเฉพาะสำหรับแมวเป็นท้องผูก จะมีทั้งแบบเม็ดและแบบอาหารเปียกให้คุณได้เลือกตามความชอบของแมว โดยอาหารเหล่านี้จะเน้นการผสมไฟเบอร์แบบละลายน้ำได้ดี มีไขมันกับโซเดียมต่ำ พร้อมให้สารอาหารที่เหมาะสมและเป็นสารอาหารที่ไม่หนักมากเกินไป ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและมีตัวช่วยเร่งการเผาผลาญ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยจะเข้าไปกระตุ้นลำไส้ของแมว เพื่อทำให้การขับถ่ายมีความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งยังมีคุณสมบัติในการทำให้ก้อนอุจจาระภายในลำไส้นิ่มลง จึงทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างง่ายดายและบางสูตรอาจจะมีการ ผสมไซเลี่ยมที่จะเป็นตัวช่วยลดอาการท้องผูกได้อย่างรวดเร็ว
2.อาหารฟื้นฟู
อาหารสำหรับฟื้นฟูสุขภาพแมว ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็สามารถกินได้ เพราะจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการฟื้นฟูอวัยวะภายในให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นโภชนาการสูงที่จะทำให้ทุกอวัยวะมีความแข็งแรงมากขึ้น พร้อมทำให้ระบบการย่อยอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีมากขึ้น ลดสารอาหารที่ไม่จำเป็นต่อแมวและเป็นสารอันตรายลง แล้วเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์สูงเข้าไป เพื่อทำให้สุขภาพของแมวแข็งแรงมากขึ้น
สิ่งที่ควรป้องกัน เพื่อไม่ให้แมวเป็นโรคท้องผูก
ถ้าคุณไม่อยากให้แมวสุดที่รักต้องเผชิญกับปัญหาอาการท้องผูก จนทำให้กระทบต่อสุขภาพโดยรวม คุณควรใช้วิธีการดูแลเพื่อการป้องกันดังต่อไปนี้
- เลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและไม่ควรให้อาหารที่เป็นโปรตีนหนักมากจนเกินไป
- ควรมีพื้นที่ในการวิ่งและการออกกำลังกายสำหรับแมวโดยเฉพาะ
- ไม่ควรปล่อยให้แมวมีอาการเครียด เพราะอาจจะส่งผลต่อการขับถ่ายได้ด้วยเช่นกัน
- จัดกระบะทรายไว้ให้แมวอย่างเหมาะสม ไม่ควรมีกระบะทรายน้อยเกินไป เพราะอาจทำให้แมวบางตัวรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวและไม่ยอมเข้ากระบะทราย
- ทำความสะอาดกระบะทรายอยู่เสมอ กระตุ้นให้แมวกินน้ำเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ด้วยการซื้อน้ำพุมาใช้เพื่อดึงดูดความสนใจหรือใช้ไซริงค์ดูดน้ำเพื่อป้อนน้ำและสร้างความเคยชินให้กับแมว
- คอยสังเกตอาการให้ดีอยู่เสมอ ถ้าแมวเริ่มถ่ายไม่ออกเพียงแค่ 1-2 วัน ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
การป้องกันและการดูแลไม่ให้แมวเกิดอาการท้องผูกไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่คุณจะต้องใส่ใจและคอยสังเกตพฤติกรรมแมวของคุณเองให้ดี แต่ถ้าเกิดเหตุให้แมวต้องท้องผูกแล้วคุณควรดูแลเรื่องอาหารการกิน, ความสะอาด, การออกกำลังกาย และกระตุ้นให้แมวกินน้ำอยู่เสมอ เพื่อลดปัญหาท้องผูกที่อาจลุกลามไปสู่การผ่าตัดและการเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/แมว-มีอาการ-มีการเบ่งอึ๊อยู่นาน-ทำอย่างไรดี/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/161/?=โรค/แมวป่วย-ท้องผูก
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/วิธีดูแล-แมว-มีอาการ-กระวนกระวายและ-ทำไงดี/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/วิธีดูแล-แมว-แปลก-เหงือกซีด-ทำไงดี/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/แมว-ท้องผูก-กิน-โย-เกิ-ร์-ต/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/แมว-มีอาการ-ปวดท้องหนัก-อาหารแบบไหนดี/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/161/?=โรค/แมวป่วย-ท้องผูก#:~:text=เมื่อใดที่น้องแมว แล้วจะเกิดจากความ
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/แมว-ท้องผูก-อาการ/
- https://xn--y3cadbvcwdn4cb5b6jl com/เกี่ยวกับ/แมว-แปลก-อุจจาระมีความแข็ง-ทำอย่างไรดี/