เหมียวๆ มะนุด เราหิวแล้ว

ถ้าคุณต้องการให้เป็นอาหารสดทำเอง คุณควรเลือกให้มีสัดส่วนของโปรตีนสูง, ลดไขมันเสีย, คาร์โบไฮเดรต, น้ำตาล และโซเดียมลงให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวลดน้ำหนัก คือ เนื้อปลาทะเลสด, อกไก่, ไข่ และมันฝรั่ง เป็นต้น

หมอแมวเมียว

Master

วิธีดูแล แมวเป็นโรคตับ อย่างถูกวิธีและ อาหารที่เหมาะสม

แมวเป็นโรคตับ ควรกินอาหารอะไรดีที่สุด

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลาย ๆ คน แต่ในการเลี้ยงดูที่เจ้าของแมวหลายรายมองว่าทำได้ดีแล้ว ก็อาจยังซ่อนเร้นโรคภัยที่น่ากลัวภายในตัวแมวอยู่ หนึ่งในนั้นคือโรคตับที่เกิดได้จากทั้งอาหาร, สภาพแวดล้อมที่ถูกเลี้ยงดู และเกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบร่างกายแมวเอง ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้แมวสุดที่รักต้องเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ สามารถติดตามรายละเอียดของโรคและการดูแลได้ภายในบทความนี้

สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับแมวที่เป็นโรคตับ

ตับมีหน้าที่ในการย่อยอาหารและเปลี่ยนแปลงสารอาหาร ให้เข้าไปช่วยเสริมสุขภาพและร่างกายของแมว ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดกำจัดของเสียออกจากเลือด พร้อมการเป็นอวัยวะที่ช่วยในการสะสมวิตามินกับแร่ธาตุไว้ให้ร่างกายได้ใช้งานอย่างเหมาะสม ทั้งยังมีคุณประโยชน์ในเรื่องของการเสริมให้ภูมิคุ้มกันมีความแข็งแกร่งและทำให้เลือดแข็งตัวเร็วเมื่อเกิด บาดแผล ดังนั้นถ้าตับอักเสบหรือมีความผิดปกติ ย่อมส่งผลถึงความเสื่อมของอวัยวะอื่น ๆ ภายในร่างกายได้ง่ายกว่าปกติเป็นเท่าตัว ดังนั้นการเกิดโรคตับในแมวจึงส่งผลที่ค่อนข้างร้ายแรงพอสมควร ยิ่งถ้าสะสมมาเป็นเวลานาน ไม่ได้รับการรักษาและการดูแลอย่างถูกต้อง ย่อมทำให้อาการทรุดหนักลงและอาจจะเสี่ยงเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว โดยโรคตับในแมวจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่พบได้มากที่สุด คือ

1.การสะสมของไขมันภายในตับ (Hepatic Lipidosis)

ภาวการณ์สะสมไขมันภายในตับที่มีมาก จะเกิดขึ้นกับแมวที่ได้รับอาหารพลังงานสูงจนกลายเป็นภาวะเสี่ยงโรคอ้วน โดยเฉพาะแมวเลี้ยงที่ไม่ค่อยได้วิ่งล่าหรือออกกำลังกาย ซึ่งโรคตับภาวะนี้จะพบได้บ่อยมาก เนื่องมาจากเจ้าของแมวส่วนใหญ่มักจะให้อาหารแมวที่มีโปรตีนสูงและเป็นโปรตีนที่เผาผลาญได้ยาก แต่ทั้งนี้ก็สามารถเกิดกับแมวที่ได้รับอาหารตามปกติแต่โปรตีนกลับไม่เพียงพอได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังพ่วงมาด้วยโรคหัวใจ, เบาหวาน, ตับอ่อนอักเสบ และไตวายเฉียบพลันอีกด้วย

2.ความผิดปกติของการทำงานสมอง (Hepatic Encephalopathy)

ภาวะความผิดปกติทางสมอง เกิดจากมีของเสียจำนวนมากคั่งค้างอยู่ภายในตับ จึงส่งผลไปสู่ระบบสมอง ซึ่งสารพิษที่ไม่ได้ผ่านการกรจากตับจะไหลไปปะปนกับเลือด จึงทำให้เลือดที่ปนสารพิษไหลเวียนไปสู่ระบบประสาท สมองจึงถูกทำลายและแสดงอาการชักเกร็ง, ตาบอดอย่างรวดเร็ว หรือเดินเซและไม่สามารถทรงตัวได้ เป็นต้น

แมวเป็นโรคตับเกิดจากอะไร?

การเกิดโรคตับในแมวมีปัจจัยที่ส่งผลต่อความเสี่ยงหลากหลายปัจจัยด้วยกัน คือ

  • ความอ้วนที่เจ้าของแมวบางรายมองว่าดูน่ารัก แต่กลับส่งผลให้เป็นโรคตับได้ง่ายที่สุด เสี่ยงต่อการเป็น Hepatic Lipidosis หรือภาวะของการสะสมไขมันที่ตับมากเกินความจำเป็น
  • อายุยิ่งมาก ยิ่งแสดงอาการของโรคตับออกมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีอายุตั้งแต่ 7-10 ปีขึ้นไป จะพบเนื้องอกในตับได้มากกว่าแมวอายุน้อย
  • ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อจากรุ่นพ่อ-แม่มาสู่รุ่นลูกได้ง่ายที่สุด
  • สายพันธุ์ของแมวไทยจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับได้มากกว่าแมวในสายพันธุ์อื่น ๆ
  • การสัมผัสต่อสารเคมีบางชนิดเป็นระยะเวลานานเกินไป จะเกิดการสะสมและส่งผลต่อการทำลายตับ
  • การรับประทานยาเพื่อรักษาโรคหรือยาบำรุงบางประเภท อาจทำให้เกิดการสะสมและทำลายจนตับเสียหายได้เช่นกัน

อาการของโรคตับในแมว

สำหรับเจ้าของแมวที่รู้สึกกังวลใจว่าแมวของคุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับหรือไม่? คุณสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้

  • มีอาการเบื่ออาหาร แม้แต่อาหารที่เคยชอบกินก็ไม่สามารถกินได้อย่างอร่อยอีกต่อไป
  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
  • กินน้ำมากขึ้นและบ่อยครั้งกว่าเดิม
  • มีอาการอาเจียนร่วมหลังการกินอาหาร
  • ท้องเสียบ่อยครั้ง
  • มีอาการน้ำลายไหลยืดแบบไร้สาเหตุ
  • มีอาการซึม ไม่เล่น ไม่ร่าเริง หลบไปนอนในมุมสงบเพียงตัวเดียว

อาการของโรคตับจะมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นและมักจะไม่ค่อยแสดงอาการที่เจาะจงมากนัก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจค่าตับจากผลเลือดที่จะทำให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำ พร้อมการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงที

แมวเป็นโรคตับ ควรดูแลอย่างไร

เมื่อคุณพาน้องแมวไปตรวจกับสัตวแพทย์และพบว่าเป็นโรคตับจริง คุณควรให้การรักษาอย่างต่อเนื่องและดูแลน้องแมวที่เป็นโรคตับตามวิธีนี้

  • ป้อนยาให้ตรงตามเวลาที่สัตวแพทย์สั่ง
  • ถ้าเป็นโรคตับขั้นรุนแรงจนต้องได้รับการผ่าตัด ควรดูแลแผลผ่าตัดของน้องแมวให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อและอักเสบ
  • ให้อาหารที่เหมาะสมต่อแมวเป็นโรคตับหรือเป็นอาหารสูตรเฉพาะของแมวที่เป็นโรคนี้ โดยจะมีทั้งแบบ อาหารเม็ดและอาหารเปียกให้เลือก
  • เลี้ยงแมวระบบปิด เพื่อป้องกันการออกไปรับสารพิษหรือเชื้อต่าง ๆ นอกบ้าน
  • แยกพื้นที่ให้แมวป่วยอยู่ในบริเวณที่มีความสะอาดและอากาศถ่ายเทสะดวก
  • การทำความสะอาดบ้านควรปราศจากสารเคมีที่อาจเป็นพิษต่อตับแมวได้
  • จัดพื้นที่นอนและพื้นที่ส่วนตัวให้แมว เพื่อลดความตึงเครียด
  • พาไปพบสัตวแพทย์ตามนัดทุกครั้งอย่างเคร่งครัด

อาหารที่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคตับ เป็นอาหารแบบไหน ให้อาหารอะไรได้บ้าง

อาหารคือส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยเสริมสุขภาพให้แมวที่เป็นโรคตับกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้น ดังนั้นลองดูว่ามีอาหารแบบใดบ้างที่เหมาะสมต่อแมวที่เป็นโรคนี้

1.อาหารเปียกสูตรเฉพาะ

อาหารเปียกจะเหมาะสำหรับแมวเป็นโรคตับที่มีอาการปากอักเสบหรือเจ็บปากร่วมด้วย รวมไปถึงแมวที่มีภาวะเริ่มเบื่ออาหารอย่างรุนแรง จะเป็นสูตรเฉพาะที่ลดปริมาณโปรตีนหนักลงและเพิ่มกรดอะมิโนจำเป็นให้กับร่างกาย ทั้งยังส่งผลให้ไขมันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานภายในร่างกายได้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นตัวช่วยลดการทำงานของตับ ทั้งยังมีแอลคาร์นิทีนที่จะเพิ่มเซลล์บำรุงตับให้มากขึ้น  มีการควบคุมปริมาณของสารอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกายแมวที่เป็นโรคตับและเพิ่มวิตามินกับแร่ธาตุ ทั้งยังควบคุมปริมาณของทองแดงและเหล็ก พร้อมการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแอมโมเนียที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตับและสมองของแมวได้

2.อาหารเม็ดสูตรเฉพาะ

อาหารแมวสูตรเฉพาะสำหรับแมวเป็นโรคตับแบบเม็ด จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับแบบอาหารเปียกทั้งหมด เพียงแต่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับแมวที่ชอบการกินอาหารเม็ดมากกว่า เม็ดอาหารจะเคี้ยวง่าย ไม่แข็ง จึงไม่จำเป็นต้องนำไปแช่น้ำแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นสูตรแบบย่อยง่าย มีโปรตีนจำเป็นแบบอนุภาคเล็ก เพิ่มกรดอะมิโนจำเป็นกับวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย มีตัวช่วยลดเซลล์ทำลายตับ มีการควบคุมสารอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อทำให้การกินอาหารของแมวสร้างประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างสูงสุด

3.อาหารที่ผ่านมาตรฐาน AAFCO

ถ้าอาการโรคตับในแมวของคุณดีขึ้นแล้ว ต้องการปรับเปลี่ยนมาสู่อาหารสูตรปกติ คุณควรเน้นให้อาหารที่ผ่านมาตรฐานสากล AAFCO จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะอาหารเหล่านี้จะมีการควบคุมปริมาณของคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, วิตามิน, ไฟเบอร์, ไขมัน และแร่ธาตุไว้ให้สมดุลต่อสุขภาพของแมวที่เป็นโรคต่าง ๆ จึงถือว่าเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีความปลอดภัยสูงและผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดี พร้อมให้สารอาหารที่มีความครบถ้วน

4.อาหารโปรตีน

โรคตับเกิดขึ้นจากการมีสารแอมโมเนียที่ถูกเปลี่ยนเป็นยูเรียในเลือดสูง ดังนั้นจึงควรเน้นให้โปรตีนกับไขมันแบบย่อยง่ายต่อแมวที่เป็นโรคตับ เช่น การให้โปรตีนจากนมและไขของวัวที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ลดการเกิดปริมาณของแอมโมเนียภายในระบบเลือดให้น้อยลง พร้อมการหลีกเลี่ยงโปรตีนที่ก่อให้เกิดแอมโมเนียสูงอย่างกุ้ง, เครื่องในสัตว์ทุกประเภท และโฮลวีต เพราะนอกจากจะให้โปรตีนหนักแล้ว ยังมากับทองแดงในปริมาณที่สูงมากเลยทีเดียว

5.อาหารต้านอนุมูลอิสระ

อาหารต้านสารอนุมูลอิสระของสัตว์เลี้ยง คือ อาหารที่ผสมผสานวัตถุดิบที่เป็นตัวช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ พร้อมให้การบำรุงและฟื้นฟูตับได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาหารประเภทนี้จะช่วยเสริมสุขภาพทั้งโรคตับและโรคอื่น ๆ ให้การฟื้นฟูสมองกับระบบภายในของสัตว์เลี้ยง ระบบต่าง ๆ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  อาหารที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะอุดมอยู่ในสารสกัดจากสมุนไพรที่สัตว์เลี้ยงสามารถกินได้ กรดอะมิโนรวม และวิตามินรวม เป็นต้น

สิ่งที่ควรป้องกัน เพื่อไม่ให้แมวเป็นโรคตับ

ถ้าคุณไม่อยากให้น้องแมวแสนรักต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ คุณควรป้องกันและดูแลอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้สุขภาพของน้องแมวแข็งแรงและไม่ต้องทุกข์ทรมานไปกับโรคตับด้วยการดูแล ดังนี้

  • ให้อาหารคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • อาหารที่ดีควรมีปริมาณของโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เหมาะสมต่อร่างกายของแมว ไม่มีสารใดที่สูงมากเกินไป
  • หาของเล่นหรือกิจกรรมให้น้องแมวได้ออกกำลังกายอยู่เสมอ
  • เลี้ยงระบบปิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากภายนอก
  • ทำความสะอาดที่อยู่ของแมวเป็นประจำ และควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสารจากธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสารเคมีสะสม
  • พาน้องแมวของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจค่าตับอยู่เสมอ คอยสังเกตอาการแมวที่คุณเลี้ยงเป็นประจำ ถ้ามีอาการผิดแปลกไปจากเดิมเกินกว่า 3 วัน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที

สำหรับผู้ที่เลี้ยงน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักภายในบ้าน เรื่องสำคัญที่คุณควรทำ คือ การพาน้องแมวของคุณไปรับการตรวจสุขภาพเป็นประจำและรับวัคซีนที่จำเป็นต่อแมวให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ พร้อมไปด้วยการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ เลือกอาหารที่ดีและเหมาะสมต่อแมวแต่ละช่วงวัย เสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะทำให้แมวสามารถออกกำลังกายได้อย่างสนุกสนาน เพื่อช่วยลดความตึงเครียด เพียงเท่านี้น้องแมวของคุณจะอยู่อย่างมีความสุขและไม่ต้องเสี่ยงทุกข์ทรมานไปกับโรคตับและโรคร้ายต่าง ๆ อีกต่อไป


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

แชทถามเรื่องอาหารแมว
คลิกที่นี่เพื่อ แอดไลน์มาได้เลย แอด Line คลิก