8.เรียนรู้อารมณ์แมวอย่างเข้าใจด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ
เชื่อว่าหนึ่งในเรื่องที่คนเลี้ยงแมวอยากจะรู้มากที่สุด คือ การสื่อสารกับแมวแบบใดจึงจะสามารถเข้าใจถึงความคิด, อารมณ์ และความรู้สึกในช่วงเวลานั้น ๆ ของแมวได้เป็นอย่างดี เพราะการสื่อสารจะช่วยทำให้เจ้าของสามารถเลี้ยงน้องแมวได้ง่ายมากขึ้น เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้การอยู่ร่วมกันมีความสุขมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะเข้าใจอารมณ์แมวอย่างชัดเจน ควรรู้ถึง 4 ปัจจัยสำคัญต่อไปนี้
1.สื่อสารผ่านหู
การสื่อสารผ่านหู คือ เมื่อแมวมีปฏิกิริยาด้านอารมณ์ต่าง ๆ จะแสดงออกผ่านทางหูได้อย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการเอียงและขยับหูไป-มา เป็นการทำให้เห็นถึงการเรียนรู้เสียงและพยายามที่จะวิเคราะห์ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นอย่างไร แต่ถ้าแมวกำลังผ่อนคลายอยู่ หูจะตั้งตรงตามปกติและอาจจะเอียงออกไปทางด้านข้างเล็กน้อย แต่ถ้าหูเริ่มถูกกดลงไปด้านข้างแบบต่ำขั้นสุด นั่นหมายถึงอาการกลัวและกำลังพยายามป้องกันตัวเอง นอกจากนี้การขยับหูไป-มาและตั้งตรงขึ้นยังหมายถึงความรู้สึกตื่นกลัว รู้สึกตกใจ จึงจำเป็นที่จะต้องขยับหูเพื่อให้รู้ทิศทางของสิ่งอันตรายที่กำลังจะมาถึงตัวเอง
2.หางก็บอกอารมณ์ได้
หางที่สามารถบอกอารมณ์ได้ คือ การแกว่งไป-มาทั้งซ้ายและขวาแบบช้า ๆ จะหมายถึงความรู้สึกที่เพลิดเพลินและกำลังผ่อนคลาย แต่ถ้าเมื่อใดที่หางเริ่มตีขึ้น-ลงอย่างแรงจะหมายถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจและอาจจะป้องกันตัวด้วยการข่วนอีกด้วย หรือถ้าเป็นการยกหางขึ้นแบบโค้งสูงและมีการพองขนร่วมด้วย นั่นหมายถึงกำลังเตรียมพร้อมจะสู้เพื่อป้องกันตัวเอง นอกจากนี้การควงหางจนแทบจะเป็นวงกลมแบบรุนแรง ก็จะหมายถึงอาการกลัวจนเครียดและพร้อมสู้ด้วยเช่นกัน
3.สายตาพิฆาต
สายตาพิฆาตของน้องเหมียว ไม่ได้มีไว้เพื่อการมองแรง! เท่านั้น แต่ยังเป็นการสื่อสารให้เจ้าของได้รู้ถึงความสุข ความผ่อนคลาย การอยากเล่น หรือความรู้สึกกลัวกับกำลังโกรธได้ครบถ้วนเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงต้องสังเกตให้ดี ถ้าน้องแมวมีอาการตาปรือ กระพริบตาช้า ๆ จะหมายถึงกำลังเพลิดเพลิน รู้สึกพึงพอใจและมีความสุข แต่ถ้าตาเบิกโพลงกว้างจะหมายถึงความรู้สึกตกใจกลัว นอกจากนี้การจ้องมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษและมองอย่างตั้งใจ จะหมายถึงความกังวลและความหวาดกลัวด้วยเช่นกัน
4.ปากก็สื่อสารได้
ปากและจมูกของน้องแมวสามารถสื่อสารให้คุณรู้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าแมวของคุณกำลังรู้สึกสบายใจและมีความสุข หนวดจะมีการเคลื่อนไหวเองแบบเป็นอิสระและน้องแมวมักจะเลียขนข้างปากของตัวเองแบบสบายใจ หนวดจะถูกดึงเข้ามาชิดกับใบหน้า แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกกลัวหรือวิตกกังวล หนวดของแมวจะกางออกและริมฝีปากปิดสนิท แต่ถ้าเครียดหนักขึ้นจะเริ่มเลียปากบ่อยครั้ง โดยจะเป็นการแลบลิ้นออกมาเลียจมูกบ่อย ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน
ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้าของน้องแมวอย่างเข้าใจ คุณควรสื่อสารให้ได้ด้วยทั้ง 4 ปัจจัยนี้ เรียนรู้ให้เข้าใจทั้งการสื่อสารและการแสดงออกทางพฤติกรรม คุณก็จะสามารถเข้าถึงความต้องการของน้องแมวได้มากขึ้นและช่วยทำให้คุณกับน้องแมวใช้ชีวิตที่มีความสุขร่วมกันได้แน่นอน!