แมวทำหมัน ดูแลอย่างไร ควรให้กินอาหารแบบไหนดีที่สุด
การทำหมันแมวให้ประโยชน์ที่มากกว่าที่ใครหลายคนคิด เพราะนอกจากจะเป็นการลดปริมาณประชากรที่เกิดใหม่ของแมวและทำให้อยู่ภายในจำนวนที่ดูแลได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพของทั้งแมวเพศผู้และเพศเมียได้ดีมากขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ และช่วยยืดอายุให้แมวที่รักของคุณอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การทำหมันแมวจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าของแมวยุคนี้ไม่ควรมองข้าม
สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับแมวทำหมัน
การทำหมันของทั้งแมวเพศผู้และเพศเมียจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเหมือนกัน แต่จะแตกต่างด้วยขั้นตอน การผ่าภายในแมวเพศเมียจะมีความยุ่งยากมากกว่าเพราะจะต้องผ่าตัดเข้าไปถึงมดลูก ส่วนเพศผู้จะผ่าตัดเพียงแค่นำลูกอัณฑะของแมวออกไปเท่านั้น โดยวิธีการที่แตกต่างและความยุ่งยากที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้การผ่าตัดในแมวเพศเมียจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าและจะต้องให้การดูแลที่มากกว่า ซึ่งก่อนทำหมันแมวเพศเมียจะต้องไม่มีอาการติดสัดมาก่อน หรือจะต้องทิ้งช่วงระยะเวลาหลังการติดสัดไปจนกว่าแมวตัวเมียจะหมดอาการ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการตกเลือดในขณะผ่าตัด ส่วนแมวตัวผู้นั้นสามารถทำได้ตลอด ไม่ว่าจะช่วงเวลาใดก็ตาม ซึ่งรูปแบบการผ่าตัดเพื่อทำหมันแมวตัวเมียจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ
1.การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
รูปแบบการผ่าตัดดั้งเดิม คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อดึงรังไข่กับมดลูกของแมวขึ้นมา แล้วทำการ ผูกที่รอบรังไข่กับมดลูกให้แน่น รวมไปถึงการมัดให้เส้นเลือดไม่สามารถมาเลี้ยงได้ แล้วทำการตัดรังไข่กับมดลูกออกจากกัน จากนั้นจะมีการนำทั้งมดลูกและรังไข่ใส่กลับเข้าที่เดิมแล้วทำการปิดแผลด้วยการเย็บให้เรียบร้อย แต่การผ่าตัดด้วยวิธีนี้อาจจะมีการตัดเพียงแค่เฉพาะรังไข่ออกได้เช่นกัน
2.การผ่าตัดแบบสอดกล้อง
การผ่าตัดในรูปแบบส่องกล้อง เป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าท้อง โดยใช้เพียงแค่การผ่ารอยขนาดเล็กบนส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าท้องที่จะเปิดแผลเพียงแค่ 2 เซนติเมตร ประมาณ 2 รูขึ้นไป แล้วทำการสอดกล้องกับเครื่องมือสำหรับการผ่าตัด ซึ่งในขณะผ่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อทำให้ช่องท้องขยายมากขึ้น จึงทำให้การสอดเครื่องมือกับกล้องที่ส่องภายในช่องท้องทำงานได้อย่างสะดวก เมื่อผ่าตัดเสร็จจะมีการสูบเอาคาร์บอนไดออกไป โดยขั้นตอนของการผ่าจะเกิดขึ้นภายในรูขนาดเล็กที่ถูกเจาะไว้ โดยจะมีทั้งการตัด การผูก และการเย็บที่เสร็จสิ้นในขั้นตอนเดียว แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว วิธีการสอดกล้องยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก
สำหรับการทำหมันในแมวเพศผู้จะทำได้ง่ายกว่าแมวเพศเมีย แต่ก็อาจจะเป็นการผ่าตัดที่ยากมากขึ้น ถ้าพบว่าแมวเพศผู้นั้นเกิดภาวะไข่ทองแดงหรือภาวะที่มีลูกอัณฑะเพียงแค่ข้างเดียว ซึ่งลูกอัณฑะที่เหลือกลับไปเติบโตอยู่อวัยวะภายใน ถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นมาจะต้องทำการผ่าตัดเปิดช่องท้องเท่านั้น นอกจากนี้การผ่าตัดใหญ่จะเกิดขึ้นถ้าเกิดภาวะเหล่านี้
- ภาวะอัณฑะฝ่อหรือท่ออสุจิอักเสบ
- เกิดบาดแผลที่ลูกอัณฑะอย่างรุนแรง
- มีเนื้องอกบริเวณลูกอัณฑะ
- ภาวะอัณฑะบิด
- ไส้เลื่อน
- ต่อมลูกหมากอักเสบ
- เกิดนิ่วท่อปัสสาวะ
รูปแบบของการผ่าตัดทำหมันแมวเพศผู้จะมี 2 รูปแบบเหมือนกับแมวเพศเมีย แต่รูปแบบแรกจะมาในแบบ Open เทคนิค คือ การผ่าตัดเปิดช่องท้องช่วงบริเวณเหนืออัณฑะประมาณ 1 เซนติเมตร กับแบบที่ 2 คือ การกรีดที่บริเวณอัณฑะเป็นแนวตั้งแล้วกรีดช่วงกลางของอัณฑะอีก 1 แผล จากนั้นทำการผ่าเพื่อตัดท่ออสุจิออก แต่ยังคงเหลือลูกอัณฑะไว้ตามปกติ ซึ่งรูปแบบการผ่าจะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของสัตวแพทย์แต่ละรายว่าแมวที่มาทำหมันนั้น ควรผ่าตัดด้วยรูปแบบใด
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำหมันแมว
การทำหมันแมวไม่ใช่แค่เพียงการลดประชากร เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึงเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ต่อตัวแมวในหลายด้าน ดังนี้
- ลดพฤติกรรมก้าวร้าวของแมว เพราะฮอร์โมนหลังการผ่าตัดจะลดลงไปเรื่อย ๆ จนอาจจะหมดไปในที่สุด
- สำหรับแมวตัวเมียจะช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งได้มากเลยทีเดียว
- ป้องกันปัญหาเรื่องโรคมดลูกอักเสบได้ดี
- ป้องกันปัญหาการคลอดลูกยากที่อาจจะทำให้เสียชีวิตทั้งแม่และลูกแมว
- มีพฤติกรรมอยู่ติดบ้าน ไม่หนีออกจากบ้าน และใกล้ชิดเจ้าของมากขึ้น
- สำหรับแมวตัวผู้จะป้องกันได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้องอกและนิ่ว รวมไปถึงโรคมะเร็งในแมวได้
- สำหรับผู้ที่ต้องเลี้ยงแมวหลายตัวภายในบ้าน เมื่อทำหมันแล้วแมวจะเริ่มเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น เพราะจะไม่มี ฮอร์โมนหรือความรู้สึกหวงถิ่นและไม่ต้องวางอาณาเขตอีกต่อไป
อาการหลังแมวทำหมันเป็นอย่างไร
ถ้าคุณตัดสินใจที่จะทำหมันแมว หนึ่งในเรื่องที่คุณควรรู้ คือ พฤติกรรมหลังการทำหมันที่คุณควรเข้าใจ ดังนี้
- แมวบางตัวอาจนอนทั้งวันและมีพฤติกรรมที่ขยับตัวน้อยลงกว่าเดิม
- อาการก้าวร้าวหรือดุดันจะลดลงและลดไปเรื่อย ๆ ทุกวัน
- หยุดการร้องหาคู่และลดการหนีออกจากบ้านได้มากขึ้น
- ลดพฤติกรรมการฉี่ไม่เป็นที่และการฉี่ทับแมวตัวอื่น เพราะไม่จำเป็นต้องแสดงอาณาเขตอีกต่อไป
- น้ำหนักตัวเพิ่มสูงขึ้น ไม่ค่อยเล่น และไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง
- สำหรับแมวตัวเมียจะเห็นพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากเดิมชัดเจน คือ ไม่มีเสียงร้องหาคู่
- การกินอาหารจะเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้แมวบางตัวมีน้ำหนักสูงเกินเกณฑ์ ดังนั้นเจ้าของจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องน้ำหนักให้ดี
- ใกล้ชิดและอ้อนเจ้าของมากขึ้น
- แสดงพฤติกรรมที่อ่อนโยนทั้งกับเจ้าของและแมวด้วยกัน
แมวทำหมัน ควรดูแลอย่างไร
เมื่อคุณพาแมวไปทำหมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องสำคัญที่คุณควรใส่ใจ คือ การดูแลแมวหลังทำหมันที่จะมีดังต่อไปนี้
- ถ้าเป็นแมวเพศเมียจะต้องมีการใส่ชุดธรรมดาที่ปกปิดช่วงบริเวณหน้าท้องไว้ตลอดระยะเวลา 7 วัน
- ถ้าไม่ใส่ไปชุดปิดหน้าท้อง ควรใส่เป็น Collar เพื่อป้องกันแมวเลียและกัดแผลตัวเอง
- เจ้าของต้องดูแลแผลและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- ให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่งอย่างตรงเวลา
- ให้อาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวทำหมัน เพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
- หลังการทำหมันวันแรกแมวจะยังไม่ค่อยฟื้นจากยาสลบ เจ้าของต้องจัดท่านอนไม่ให้คอพับเด็ดขาดและไม่ให้นอนทับกัน เพื่อป้องกันการขาดอากาศหายใจ
- อาการหลังฟื้นจากยาสลบแรก ๆ อาจจะยังไม่กินอาหาร ดังนั้นคุณจึงควรตั้งเพียงแค่ ภาชนะใส่น้ำไว้ใกล้แมวเท่านั้น
- ถ้าแมวฟื้นแล้วยังไม่ควรให้แมวตัวอื่นเข้าใกล้ เพราะอาจจะเพิ่มความเครียดให้แมวที่ทำหมันได้
- แยกแมวทำหมันออก เพื่อให้พักผ่อนอย่างเต็มที่
- ดูแลทำความสะอาดพื้นที่ของแมวทำหมันให้สะอาดอยู่เสมอ
- สังเกตอาการต่าง ๆ ให้ดี ถ้ามีความผิดปกติที่ตัวแมว เช่น ซึมลง, ไม่กินอาหาร หรือแผลอักเสบต้องรีบพบแพทย์ทันที
อาหารที่เหมาะสำหรับแมวทำหมัน ควรเป็นอาหารแบบไหน ให้อาหารอะไรได้บ้าง
หลังจากการทำหมันแล้วคุณควรเตรียมอาหารที่เหมาะสมให้กับแมวของคุณ เพื่อเป็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาหารสำหรับแมวทำหมันที่ควรเตรียมไว้ คือ
1.อาหารสูตรฟื้นฟู
อาหารสูตรฟื้นฟูสุขภาพของแมวหลังการทำหมัน ที่จะช่วยทำให้แผลจากการผ่าตัดหายได้เร็วมากขึ้น ลดการอักเสบ และช่วยควบคุมความเข้มข้นของปัสสาวะ เพื่อป้องกันปัญหาระบบปัสสาวะอักเสบ โดยมีทั้งรูปแบบอาหารเม็ดและอาหารเปียกที่มีการควบคุมสารอาหารไว้อย่างเหมาะสม มีโปรตีนธรรมชาติและมี L-Carnitine เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน แป้ง และน้ำตาลภายในร่างกาย โดยสูตรฟื้นฟูสุขภาพแมวทำหมันนั้นจะมีการบ่งบอกถึงเรื่องอายุและขนาดน้ำหนักไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกซื้ออย่างถูกต้อง
2.อาหารสูตรควบคุมน้ำหนัก
อาหารแมวสูตรควบคุมน้ำหนักเหมาะอย่างมากสำหรับแมวทำหมันแล้ว โดยเฉพาะช่วงหลังทำหมันแมวทั้งเพศผู้และเพศเมียจะกินอาหารมากขึ้น จนก่อให้เกิดปัญหาเรื่องโรคอ้วนและโรคอื่น ๆ ตามมา ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารสำหรับการควบคุมน้ำหนัก เป็นอาหารที่สามารถลดทั้งไขมันและคาร์โบไฮเดรตได้ดี แต่เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและช่วยเผาผลาญพลังงานที่เหลืออยู่ให้ออกไปอย่างหมดจด นอกจากนี้ควรเลือกเป็นสูตรแบบพรีไบโอติก เพื่อทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้นและมีสารสกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ ที่ให้ประโยชน์ทั้งเรื่องของการขับถ่ายอย่างคล่องตัวและลดกลิ่นฉุน ลดความเข้มข้นภายในปัสสาวะ พร้อมบำรุงผิว ขน และกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
ข้อควรรู้หลังการทำหมันแล้ว
เมื่อคุณทำหมันแมวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีข้อควรรู้หลังจากการทำหมันที่คุณควรทำตามอย่างเคร่งครัด คือ
- ปรับสูตรอาหารให้แมวใหม่ เน้นอาหารที่มีโปรตีน ไฟเบอร์ และ L-Carnitine รวมไปถึงสารอาหารต่าง ๆ ที่มีอย่างเหมาะสม
- ลดอาหารไขมันและโซเดียมสูง เพื่อป้องกันปัญหาแมวอ้วนและอาจพาโรคต่าง ๆ ตามมา
- เข้าใจถึงพฤติกรรมแมวหลังการทำหมันที่อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น ไม่ค่อยวิ่ง ซึมลง หรือดูไม่ซนเท่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ควรบังคับให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แมวไม่ชอบ เพราะอาจเพิ่มความเครียดได้
- เสริมกิจกรรมการออกกำลังกายให้กับแมวอยู่เสมอ
- สัปดาห์แรกของการทำหมันไม่ควรให้แมวออกกำลังกายหนักมากจนเกินไปและควรแยกที่อยู่จากแมวตัวอื่น
- ถ้าในช่วงแรก แมวทำหมันภายในบ้านของคุณไม่สามารถเข้ากับแมวตัวอื่นได้ ไม่ต้องกังวลใจและควรให้เวลา
- จัดที่นอนและกระบะทรายที่มีความเงียบสงบ เพื่อลดความตึงเครียด
เมื่อคุณพาแมวไปทำหมันแล้ว ควรดูแลสุขภาพและการกินอาหารของน้องแมวอยู่เสมอเพื่อป้องกันน้ำหนักที่เพิ่มสูงขึ้นจนอาจจะพาเอาโรคร้ายมาด้วย เนื่องจากแมวหลังการทำหมันแล้วจะมีแนวโน้มของการกินอาหารที่เพิ่มมากขึ้นและจะขยับตัวน้อยลงกว่าเดิมมาก ไม่กลับไปซนเหมือนเดิม จึงยิ่งส่งผลให้น้ำหนักสูงขึ้นได้ง่ายมากกว่าเดิม ดังนั้นคุณจึงควรดูแลทั้งเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย และการทำความสะอาดแผลหลังทำหมัน เพื่อทำให้น้องแมวของคุณมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน